รอง ผบช.น. ดักคอ อดีตรองหัวหน้าพรรค ใช้อาการป่วยเข้าสู้คดี

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยความคืบหน้าคดีรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ ดักคอ ใช้อาการป่วยเข้าสู้คดี ลั่นใช้ไม่ได้ผล

สืบเนื่องจากกรณีที่ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกหญิงสาวกลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 รายเข้าแจ้งความพร้อมแฉพฤติกรรมสุดฉาว ว่าถูกอดีตรองหัวหน้าพรรคใหญ่ลวนลาม บางรายถึงขั้นเสียตัวโดยไม่ยินยอม และเป็นโรคซึมเศร้า

รอง ผบช.น. ดักคอ อดีตรองหัวหน้าพรรค ใช้อาการป่วยเข้าสู้คดี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ได้เปิดเผยภายหลังมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดีรองหัวหน้าพรรคการเมืองรายนี้ว่า หลังได้ตรวจดูสำนวนคดีและประเด็นข้อสั่งการต่างๆ พบว่าได้ดำเนินการครบถ้วนเพียงพอจะขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาในความผิดฐานกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัลได้ภายในวันที่ 16 เมษายน  65  จึงขอให้ประชาชนได้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ 


นอกจากนี้ ยังได้สอบพยานเพิ่มเติมเป็นคนขับรถแท็กซี่ไปรับผู้เสียหายมาส่ง และวันนี้ก็ได้ให้ผู้เสียหายยืนยันหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว อย่างไรก็ตาม วันนี้ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายในคดีลักษณะเดียวกันอีก 1 คดี ซึ่งเหตุเกิดปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ให้เฝ้าระวังบุคคลที่ถูกกล่าวหาเพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศแล้ว

รอง ผบช.น. ดักคอ อดีตรองหัวหน้าพรรค ใช้อาการป่วยเข้าสู้คดี

โดยภายหลังจาก รอง ผบช.น. เข้าไปประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าวนานกว่า 1 ชั่วโมง ก็เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลที่ชุดสืบสวนสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุและการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวจำนวนหลายปาก 

 


ขณะนี้มั่นใจแล้วว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไปยื่นต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ให้ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในวันที่ 16 เมษา ทั้งนี้เชื่อว่าพยานหลักฐานที่ตำรวจสามารถรวบรวมได้ จะทำให้ศาลเชื่อในพฤติการณ์ของผู้ต้องหา และจะออกหมายจับให้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่า จะดำเนินการออกหมายจับให้หรือไม่

รอง ผบช.น. ดักคอ อดีตรองหัวหน้าพรรค ใช้อาการป่วยเข้าสู้คดี


นอกจากนี้ยังย้ำว่าคดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนดำเนินการไปตามขั้นตอนไม่ได้เลือกปฏิบัติหรือดึงคดี โดยสังเกตได้จากไทมไลน์เวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งภายหลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความในวันที่ 12 เมษายนและในวันที่ 16 เมษาก็จะไปขอศาลออกหมายจับแล้ว จึงขอให้สังคมมั่นใจว่าคดีดังกล่าวจะไม่มีการช่วยเหลือกันทางคดีอย่างแน่นอนแม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะเป็นนักการเมืองหรืออดีตรองหัวหน้าพรรคดังก็ตาม

 

สำหรับคดีของผู้เสียหายรายอื่น ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อไปขอให้ศาลออกหมายจับในลักษณะเดียวกัน แต่เนื่องจากพฤติการณ์การก่อเหตุเป็นช่วงเวลาที่ต่างกันจึงต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานอีกสักระยะหนึ่ง ทั้งนี้ยังไม่มีแนวความคิดรวมคดีทุกคดีเป็นคดีเดียวกัน เนื่องจากผู้เสียหายคนละคน และช่วงเวลาการเกิดเหตุที่แตกต่างกันออกไป

รอง ผบช.น. ดักคอ อดีตรองหัวหน้าพรรค ใช้อาการป่วยเข้าสู้คดี

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้เปิดเผยในประเด็นที่ว่า พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายคนมีความผิดปกติทางจิต คล้ายคนมีอาการไบโพลาร์หรือคน 2 บุคลิกที่แตกต่างสุดขั้ว ซึ่งเกรงว่าผู้ก่อเหตุอาจใช้ประเด็นดังกล่าวในการต่อสู้ทางคดี ได้ให้พนักงานสอบสวนไปรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับประวัติการรักษาของผู้ก่อเหตุแล้ว แต่เชื่อว่าแม้จะมีอาการป่วยทางจิตก็ไม่มีผลต่อการดำเนินคดีของตำรวจ

 

สำหรับผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความเป็นรายล่าสุดนั้น จากการสอบปากคำพบว่าผู้ก่อเหตุมีการชักชวนผู้เสียหายไปร่วมรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท ที่เดียวกับผู้เสียหายรายแรกที่เข้าแจ้งความกับสน.ลุมพินี 


จากนั้นได้มีการชวนไปพูดคุยเรื่องธุรกิจและเรื่องงานที่ห้องทำงานภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะล่วงละเมิดทางเพศ และมีการข่มขู่ไม่ให้แจ้งความ แต่ภายหลังจากที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และผู้เสียหายอายุ 18 เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความโดยติดต่อผ่านทาง ทนายษิทรา เพื่อขอคำปรึกษาเรื่องขั้นตอนการแจ้งความและการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ

 

รอง ผบช.น. ดักคอ อดีตรองหัวหน้าพรรค ใช้อาการป่วยเข้าสู้คดี