- 03 พ.ค. 2565
เปิดอีกมุมมจากทนาย ชี้ กาโตะ อาจเป็นเหยื่อ เจอสีกาแสบล่อลวงพระ แนะอดีตพระแจ้งจับสีกา จะได้ทำลายมารศาสนาไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีก
กรณีประเด็นร้อนของทิดกาโตะ ล่าสุด ทนายพัฒน์ ได้โพสต์จาก มุมทนาย กาโตะ อาจเป็นเหยื่อ ที่เผลอฉันสีกาในรถสันเขื่อน และริมถนนข้างวัด ซึ่ง ทนาย เเนะ แจ้งจับสีกา จะได้ทำลายมารศาสนาไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีก
โดยเพจ ทนายพัฒน์ เผยว่า จากที่ฟังอดีตพระ กต. ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการดัง ผมเห็นว่า อดีตพระน่าจะตกเป็นเหยื่อนะ เพราะเท่าที่ดูฝ่ายหญิงค่อนข้าง มีคลิป มีข้อความ และอื่น ๆ ประกอบ หากดูยอดเงินก็มีการเรียกหลายครั้งหลายครา จนน่าตกใจ ผิดวิสัยทั่วไป..
ซึ่งพฤติการณ์รับฟังได้ว่า ฝ่ายหญิงอาจเข้าข่าย “แบล็กเมล์”อันอาจเป็นความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 338 บัญญัติว่า ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่น ให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท)
เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12685/2558 (แม้ความลับนั้นจะผิดกฎหมายหรือศีลธรรมก็ตาม) หลวงพี่อายุน้อยไม่ทันเกม พระก็ผิด เพราะกิเลส อันนี้ก็ไม่น่าให้อภัย ส่วนโยมสีกาแสบก็หากินกับพระ อาศัยจะเปิดความลับอย่างเดียว แสบจริง ๆ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าทำอะไรลงไปด้วยความมักง่าย …ชาติชายตายเพราะ***แม้แต่พระยังไม่รอด
ประเด็นที่อยากถาม
1. ทำไมสีกามีแชทลับตลอด ไม่เคยลบ (ปกติหากพิศวาสกันแบบคนรักกันจริงย่อมลบเพื่อปกปิดข้อมูลช่วยอีกฝ่าย)
2. ทำไมสีกามีคลิปเสียงเรื่อย ๆ และคำพูดคำจา เหมือนจะมัดตัวอีกฝ่ายตลอด
3. ทำไมสีกาเรียกแต่เงิน และจำนวนที่มากเกินวิสัย หลักแสน เพียงได้กันไม่กี่ครั้ง
4. เวลาให้สัมภาษณ์สื่อ เหมือนสีกาไม่สะทกสะท้าน และจะแฉอย่างเดียว แลโยนความผิดให้แต่พระตลอดนะ
เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์ต่างๆเหล่านี้ทั้งหมดประกอบกันแล้วน่าจะรับฟังได้ว่าเป็นการรีดเอาทรัพย์จากอีกฝ่ายหนึ่ง (พระเป็นเหยื่อ) อันเป็นความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 338 หรือไม่
สงสัยจริงเชียว คนดีจะคุยไลน์กับพระแบบนี้ไหม? อยากคุยกับอดีตพระนะ เห็นแล้วขึ้น!!!
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12685/2558 การขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับซึ่งเป็นองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา 338 หมายความว่า การขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยเหตุการณ์ข้อเท็จจริงที่ไม่ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไป และเป็นข้อเท็จจริงที่เจ้าของความลับประสงค์จะปกปิดไม่ให้บุคคลอื่นรู้ ดังนี้ ความลับจึงไม่จำเป็นต้องเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือผิดศีลธรรมอันดีของประชาชน หากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและเจ้าของข้อเท็จจริงประสงค์จะปกปิดไม่ให้บุคคลอื่นรู้ก็ถือว่าเป็นความลับแล้ว
เมื่อฎีกาของจำเลยยอมรับข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีภริยาอยู่แล้ว แต่จำเลยกับผู้เสียหายสมัครใจมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันมาประมาณ 1 ปี ข้อเท็จจริงที่จำเลยกับผู้เสียหายมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันจึงเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง เมื่อเป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรมอันดีของประชาชน แสดงว่าผู้เสียหายประสงค์จะปกปิดไม่ให้บุคคลอื่นโดยเฉพาะภริยาจำเลยรู้เรื่องดังกล่าว เรื่องนั้นจึงเป็นความลับของผู้เสียหาย
การที่จำเลยขู่เข็ญผู้เสียหายว่าหากผู้เสียหายไม่นำเงินจำนวน 20,000 บาท มาให้จำเลย จำเลยจะนำเรื่องความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างจำเลยซึ่งมีครอบครัวแล้วกับผู้เสียหายไปเปิดเผยต่อบุคคลอื่น จึงเป็นการขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับของผู้เสียหาย ครบองค์ประกอบความผิดตาม ป.อ. มาตรา 338
cr.
ทนายพัฒน์