- 09 พ.ค. 2565
"เจ๊เกียว" ประกาศขายบริษัทเชิดชัยทัวร์ ปิดตำนาน 65 ปี เจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย หลังเจอพิษโควิด และค่าน้ำมันแพง ขาดทุนต่อเนื่องหลายปีติดกัน ...
วันที่ 9 พ.ค. มีรายงานว่า นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร บขส.และเจ้าของอู่เชิดชัย และบริษัทเดินรถเชิดชัยทัวร์ ได้ออกมา เปิดเผยว่า จากการระบาดของโควิด รวมทั้งค่าน้ำมันดีเซลที่แพงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งบริษัทเชิดชัยทัวร์ ที่มีรถอยู่กว่า 200 คัน ตอนนี้เหลือรถวิ่งอยู่แค่ 20-30% เท่านั้น อีกประมาณ 70% ต้องหยุดวิ่ง จอดรถทิ้งไว้ที่อู่มานานกว่า 2 ปีแล้ว เพราะประสบกับปัญหาขาดทุน เนื่องจากไม่มีผู้โดยสาร และค่าน้ำมันที่แพง วิ่งรถไม่คุ้มกับค่าโดยสาร
หากนำรถออกวิ่งทุกคัน ต้องแบกรับภาคะค่าน้ำมันไม่ต่ำกว่าเดือนละ 4 ล้านบาท ตนเองจึงตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกธุรกิจรถโดยสาร บขส. โดยขายบริษัทเชิดชัยทัวร์ออกไป เพื่อไม่ให้กระทบกับธุรกิจอื่นๆ แม้ว่าจะรู้สึกเสียดาย เพราะบริษัทเชิดชัยทัวร์ ประกอบธุรกิจรถร่วมโดยสาร บขส.มานานกว่า 65 ปีแล้ว แต่ในเรื่องธุรกิจหากทำต่อแล้วมีแต่ขาดทุน ก็ไม่รู้ว่าจะทำต่อไปทำไม อีกอย่างตอนนี้ลูกๆ ทั้ง 4 คน ก็มีกิจการเป็นของตัวเองหมดแล้ว ทุกคนก็ไม่มีใครอยากสานต่อธุรกิจเดินรถ บขส. เพราะมีแต่ปัญหาและกำไรน้อย
ประกอบกับตนเองก็อายุ 85 ปีแล้ว จึงไม่อยากเหนื่อยกับการต้องทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในบริษัทที่ประสบกับปัญหาขาดทุนอย่างนี้อีกต่อไป จึงอยากวางมือกับธุรกิจรถร่วมโดยสาร บขส. และทุ่มเทเวลาไปให้กับธุรกิจอื่นๆ ที่ยังอยู่ เช่น ธุรกิจต่อตัวถังรถโดยสาร, ธุรกิจขายรถยนต์ และธุรกิจให้เช่าที่ดิน เป็นต้น
เจ๊เกียว บอกด้วยว่า ในวันที่ 12 พฤษภาคม จะยื่นหนังสือต่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ขอขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางอีก 1 สตางค์ต่อกิโลเมตร จากปัจจุบันคิดค่าโดยสารในราคาน้ำมัน 27 บาทต่อลิตรนอกจากนี้จะขอให้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถร่วม โดยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าประกันภัย และค่า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถเพื่อบรรเทาภาระในช่วงรายได้ลดลง
ส่วนแนวทางการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ที่เดิมจะปรับขึ้นอีก 1 บาท / ลิตร ในวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติคงราคาดีเซลไว้ไม่เกิน 32 บาทต่อลิตร ต่อไปอีก 1 สัปดาห์หรือ 7 วัน คงราคาถึงวันที่ 15 พฤษภาคม จากนั้นจะพิจารณาสถานการณ์อีกครั้ง
โดยคาดว่าสาเหตุที่ กบน.จำเป็นต้องตรึงราคาและใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าอุดหนุนเพิ่มขึ้นเพื่อลดผลกระทบประชาชนเพราะต้นทุนดีเซลที่ปรับขึ้นทำให้ผู้ประกอบการใช้เป็นเหตุผลในการปรับราคาสินค้าต่างๆกระทบค่าครองชีพประชาชนอย่างมาก