แพทย์เล่า กฎเหล็ก "หลวงปู่แสง" ห้ามผู้หญิงเข้าใกล้ แต่จู่ๆเปลี่ยนไป

วันที่ 14 พ.ค. 2565 เมื่อเวลา 13.00น. ที่ โรงพยาบาลพริ๊นซ์ อุบลราชธานี ทีมแพทย์แถลงสรุป 10 อาการอาพาธของ "หลวงปู่แสง" นอกจากนี้ แพทย์เล่ารักษา"หลวงปู่แสง" กฎเหล็กห้ามผู้หญิงเข้าใกล้ แต่จู่ๆเปลี่ยนไป และการรักษาครั้งล่าสุดพบว่าพระผู้ดูแลก็เปลี่ยนเป็นชุดใหม่ ไม่รายงานอาการอาพาธของหลวงปู่แสง ต้องพึ่งญาติโยมแทน และเริ่มมีการสัมผัสตัวผู้หญิงได้
 

แพทย์ไล่ไทม์ไลน์สุขภาพของหลวงปู่แสงตั้งแต่ ปี 2552-2560 ช่วงแรกที่ดูแล เจ็บป่วยด้วยโรคปวดหลัง กระดูกสันหลังเสื่อมทับเส้นประสาท , กลุ่มโรคเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง ต่อมลูกหมากโต , และกลุ่มโรคติดเชื้อปอดอักเสบ ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนใหญ่จะมาด้วยไข้สูง ถึงขั้นมีบางครั้งติดเชื้อในกระแสเลือด

และช่วงปี 2558 มีภาวะโรคนอนไม่หลับเพิ่มขึ้น มีการเพิ่มยาที่แรงขึ้นเรื่อย ๆ  และมีอาการรุนแรงต่อเนื่องจนกระทั่ง ปี 2560 มีอาการภาวะหัวใจทำงานล้มเหลว

แพทย์เผยว่าในการรักษา "หลวงปู่แสง" อาการแตกต่างจากผู้ป่วยทั่วไป บุคลิกของท่านมีข้อจำกัดเยอะ

แรกๆท่านไม่ชอบทานยา ไม่ชอบให้ใครยุ่งกับร่างกาย จึงไม่สามารถตรวจได้ 100 %

อีกทั้งหลวงปู่ยังมีกฎเหล็กคือห้ามผู้หญิงจับร่างกาย หรือแม้กระทั่งเข้าใกล้ เวลาจัดทีมแพทย์ พยาบาลที่จะเข้าไปดูแลต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น
 

กระทั่งกลางปี 2561 มีพระอาจารย์ดูแลหลวงปู่อย่างใกล้ชิด ได้บอกทีมแพทย์ว่า หลวงปู่มีอาการแปลก ๆ มีอาการสัมผัสผู้หญิง

รอบล่าสุดที่เข้าไปดูแลหลวงปู่เปลี่ยนไป พระที่ดูแลเปลี่ยนไปจากชุดเดิม อีกทั้งยังไม่ได้รายงานอาการป่วยให้ทีมแพทย์ได้ทราบเหมือนเดิม ต้องอาศัยญาติโยมที่เป็นฆราวาสดูแล จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าว จึงได้มีการประชุมกับลูกศิษย์ ไปไล่ดูข้อมูลเคยมีการวินิจฉัยได้ยามาแล้วไปรับยา 2 ครั้ง แต่ถามว่าฉันยาต่อเนื่องหรือไม่ คาดเดาไว้ว่าขาดยาตัวนั้น

แพทย์เล่าว่าพฤติกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะพฤติกรรมแตะเนื้อต้องตัว มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสมองวินิจฉัยว่ามีอาการเส้นเลือดสมองบีบเล็กลง สมองฝ่อ สมองบางส่วนขาดเลือด สมองเสื่อมเป็นโรคอัลไซเมอร์ ซิฟิลิสเป็นผลบวก และภาวะการนอนหลับที่ผิดปกติ

ตามปกติทุกคนที่อายุสูงขึ้นมาภาวะสมองเสื่อมได้ และความเปลี่ยนแปลงหลวงปู่จะเสียความจำระยะสั้น ความจำระยะยาวได้เช่น กิจกรรมที่ทำประจำคือการแจกพระ และภาวะดังกล่าวจะมีภาวะการเปลี่ยนแปลงด้านอารมรณ์และจิตใจของผู้สูงอายุ ซึ่งอาจจะคุมได้หรือคุมไม่ได้

ทั้งนี้แพทย์ได้มีการสรุปอาการอาพาธไว้ว่ามีทั้งหมด 10 กลุ่มโรค

1.ทางเดินอาหารผิดปกติ ท้องผูก

2.ภาวะโรคหัวใจโต ทำให้มีปัญหาหัวใจล้มเหลว

3.ความดันโลหิตสูง

4.ต่อมลูกหมากโต

5.ปวดหลัง กระดูกสันหลังคด

6.ข้อเข่าสองข้างเสื่อมโรคเกาท์

7.กระดูกพรุน ยุบตัว

8.นอนหลับยาก

9.สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ระยะที่ 1 หรือ 2

10.ภาวะพฤติกรรมอารมณ์ที่ผิดปกติเนื่องจากสมองเสื่อม

ขอบคุณ โรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี