- 19 พ.ค. 2565
เจ้าของร้านเปิดใจน้ำตาคลอ ฝากคำพูดถึง "วิว"น้องรักเปรียบเสมือนครอบครัว ลั่น ทำดีที่สุดแล้ว แต่ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้
จากกรณีการเสียชีวิตของ วิว หนุ่มพลเมืองดีกระโดดเกาะรถแท็กซี่ที่ชายคลุ้มคลั่งปล้นชิงมาก่อนถูกแรงเหวี่ยงจนกระเด็นตกสะพานจมน้ำเสียชีวิตไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 19 พ.ค. 2565 หลังพบร่างของ วิว หรือ นายนพดล พิมพ์ดี โดย เจ้าของร้านเปิดใจน้ำตาคลอ ฝากคำพูดถึง "วิว" ทำดีที่สุดแล้ว
นายศักดิ์ดา ถวัลย์วรกิจ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านบุหลันดั้นเมฆ เปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง มีชายคลุ้มคลั่ง บุกเข้ามาเข้าที่ร้านแล้วใช้ขวดตีนายนพดล พิมพ์ดี หรือ วิว อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพนักงานรับรถประจำร้าน ก่อนที่ชายคลุ้มคลั่งรายนี้ จะเข้าไปชิงรถแท็กซี่แล้วขับหลบหนีไป โดยนายนพดลจึงตัดสินใจกระโดดเกาะบริเวณฝาท้ายกระโปรงของรถแท็กซี่เพื่อติดตาม แต่ชายคุ้มคลั่งรายนี้กลับไม่ยอมหยุดรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งระหว่างทางมีกล้องหน้ารถที่สัญจรอยู่บนถนนสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ จากนั้นชายโครงข้างด้วยขับรถแท็กซี่ไปชนบริเวณขอบสะพานจนยางแตกไม่สามารถไปต่อได้ จึงคาดว่านายนพดลอาจกระเด็นตกจากรถลงแม่น้ำเจ้าพระยา
หลังเกิดเหตุทางพนักงานร้าน รวมถึงตัวนายศักดา เจ้าของร้านได้ช่วยกันออกติดตามค้นหาแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งมีข่าวว่านายนพดลถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทั้งหมดจึงตระเวนออกตามหาตามโรงพยาบาลต่างๆทั้งโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลเลิดสินและโรงพยาบาลตากสิน แต่สุดท้ายทุกโรงพยาบาลก็ไม่ได้รับรายงานว่า มีนายนพดลเข้ารักษาตัว
นายศักดิ์ดา นายจ้างของวิวน้ำตาคลอพร้อมเผยความรู้สึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเสียใจมาก สำหรับนายนพดล พลเมืองดีรายนี้ได้ร่วมงานกัน ร่วมงานกันมานานถึง 13 ปี โดยถือเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว ซึ่งนายนพดลเป็นคนอัธยาศัยดีเป็นที่รักของลูกค้า และถือเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น เป็นคนซื่อสัตย์
นอกจากนี้ เจ้าของร้านยังฝากถึง วิว หนุ่มพลเมืองดีด้วยว่า อยากบอกกับเขาว่า "มึงทำดีที่สุดแล้ววิว แต่ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ แต่ก็รู้ว่าห้ามไม่ได้ ศพเขายังกำมือแน่นอยู่เลย"