ชัชชาติมาขอโทษคนขับแท็กซี่ในคลิปด้วยตัวเอง แถมยังไม่ลืมทำหน้าที่ผู้ว่าฯ

จากกรณีดราม่าสนั่นโลกออนไลน์ เมื่อมีคนถ่ายคลิป ชัชชาติ ถูกแท็กซี่ปฏิเสธ จนสร้างความเข้าใจผิดทำให้คนขับแท็กซี่ในคลิปถูกโจมตีจนต่อมาความจริงเปิดเผยว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ล่าสุด ชัชชาติมาขอโทษคนขับแท็กซี่ในคลิปด้วยตัวเอง แถมยังไม่ลืมทำหน้าที่ผู้ว่าฯ ไถ่ถามถึงชีวิตและสภาพความเป็นอยู่  รับฟังปัญหา สะท้อนอีกหนึ่งเสียงในสังคม

ก่อนหน้านี้ ชัชชาติ ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงคลิปที่ตนเดินลงจากแท็กซี่คันหนึ่งไปขึ้นอีกคัน โดยผู้ถ่ายคลิปมาโพสต์นั้นได้คาดเดาว่า ชัชชาติ ถูกแท็กซี่ไล่ลง ปฏิเสธผู้โดยสาร ขนาดเป็นคนดังและเป็นผู้ว่าฯกทม.คนล่าสุด

ต่อมา ชัชชาติ ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงว่า "จากคลิปเมื่อคืนที่มีการส่งต่อกันมาก ว่าผมถูกปฏิเสธจากพี่คนขับแท็กซี่ ขออธิบายว่าไม่เป็นความจริงนะครับ รถแท็กซี่กำลังรอลูกค้าจาก Grab พี่คนขับเข้าใจผิดว่าผมเป็นคนเรียก ผมจึงต้องลงแล้วรอเรียกคันใหม่ พี่คนขับให้เกียรติผมเป็นอย่างดีครับ"

กระทั่งล่าสุดวันที่ 25 พ.ค. 2565 ชัชชาติ ได้โพสต์รูปคู่กับโชเฟอร์แท็กซี่คนดังกล่าวว่าตนได้มาพบและขอโทษคนขับแท็กซี่ในคลิปที่ถูกเข้าใจผิดด้วยตัวเอง และยังไม่ลืมถามถึงความเป็นอยู่ในสังคม รับฟังปัญหาของประชาชนด้วย

"วันนี้ผมมาขอโทษพี่ลอง คนขับ Grab Taxi ที่เป็นข่าว และต้องเดือดร้อนจากคลิปที่ผมขึ้นรถแล้วต้องลง เพราะพี่ลองนึกว่าผมเป็นผู้โดยสารที่เรียก Grab มา โดยกรมขนส่งทางบกเรียกพี่ลองไปสอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวาน

พี่ลองมีลูกสาว 1 คนตอนนี้กำลังเรียนปริญญาโทและทำงานไปด้วยอยู่ที่ระยอง พี่ลองเล่าว่าช่วงโควิดลำบากมาก ส่วนใหญ่ไม่มีลูกค้า บางวันมีแต่ก็น้อยมาก ช่วงนั้นขับได้เฉลี่ยวันละ 300 บาท ค่าเติมแก๊สตกวันละ 200 บาท ที่เหลือหารกับเจ้าของอู่แท็กซี่คนละครึ่ง เหลือใช้วันละ 50 บาท แต่ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้น รายได้ส่วนใหญ่มาจากการขับ Grab Taxi ที่หักค่าใช้จ่ายต่อวันแล้วเหลือใช้วันละ 500-600 บาท

การทำให้คนส่วนใหญ่เข้าถึงเทคโนโลยีในสมัยนี้เป็นสิ่งที่จำเป็น หนึ่งในนโยบายของเราคือการมีอาสาสมัครเทคโนโลยี (อสท.) เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุหรือช่วยเหลือคนในชุมชนเพื่อสนับสนุนด้าน Digital ของประชาชน เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้บริโภคได้อีกทาง

ผมขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆทุกคน ในการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการหารายได้ และผ่านวิกฤติโควิดนี้ไปได้ครับ "

ขอบคุณ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์