ปม "แตงโมเสียชีวิตบนบก" ที่แท้คุณแม่เข้าใจผิด อัจฉริยะอธิบายกระจ่างแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้​ (31  พ.ค.)​ เมื่อเวลา​ 10.00​ น.​ ที่​ ท่าเรือพิบูลสงคราม​  1 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานมูลนิธิช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำทีมงานโดรนสำรวจใต้น้ำ บินสำรวจวัตถุพยานหลักฐานที่เชื่อว่า คนบนเรือใช้ทำร้าย แตงโม นิดา ดารานักแสดงสาวที่ตกเรือสปีดโบ๊ทเสียชีวิตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา 

โดยมีนายณัฎฐ์นันธ์ พฤกษาณัฐกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้โดรนใต้น้ำ และผู้นำเข้าโดรนใต้น้ำโดรนใต้น้ำ กล่าวว่า โดรนใต้นำนี้ชื่อ ROV สามารถดำน้ำได้ลึก 100 เมตร  มีกล้อง4k ถ่ายภาพได้ 30 เฟรมต่อวินาที ไฟสว่าง 4,000 ลูเมน พิเศษคือจะมีแขนจับวัตถุใต้น้ำรับน้ำหนักได้  8 กิโลกรัม ใบพัดที่หมุนได้ 360 องศา ซึ่งเครื่องนี้สามารถสแกนได้หมดไม่ว่าจะกี่ปีก็เจอ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับสีของน้ำด้วยเพราะยิ่งขุ่นก็จะยิ่งหายาก

ด้าน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ถ้าหากมีการทิ้งวัตถุพยานจริงก็จะยังมีอยู่  ซึ่งสิ่งที่ตั้งใจจะมาหาวันนี้ก็คือที่เปิดขวดไวน์หรือมีด หรือแก้ว ขวดไวน์ที่เป็นวัตถุพยาน ของพวกนี้ถ้าอยู่ใต้น้ำกี่ปีก็เจอเพราะมันเป็นโลหะ สาเหตุที่มาหาเพราะเรายังคิดว่าบาดแผลขาข้างขวาของแตงโมไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือแต่เกิดจากของมีคม  ซึ่งคนที่ทำไม่น่าจะเอามีดกลับบ้านเพราะมีคราบเลือดของแตงโมติดอยู่ ซึ่งวิธีง่ายที่สุดคือการทิ้งน้ำเพราะคิดว่าคงหาไม่เจอ ส่วนพิกัดที่จะหานั้นได้มาจากดาวเทียม ส่วนมีดที่จะหานั้นคิดว่าความยาวน่าจะไม่ยาวเท่าไหร่น่าจะเป็นมีดเอาไว้เปิดขวดไวน์หริอตัดเชือดที่อยู่บนเรือ

นายอัจฉริยะยังบอกอีกว่า เตรียมจะฟ้องคนบนเรือด้วยตัวเอง ซึ่งมีมาตราอยู่ในใจอยู่แล้ว ซึ่งจะประชุมทีมทนายความกับ ส.ส.เต้วันเสาร์นี้โดยจะไม่พึ่งพาดีเอสไออีก แต่จะฟ้องเอง ก่อนที่อัยการจะสั่งฟ้องศาล 23 มิ.ย.นี้ ซึ่งยังไม่บอกหลักฐานว่าจะเอาอะไรไปฟ้องบ้าง แต่ทราบว่าตอนนี้มีคราบเลือดของคุณแตงโม 2 จุด อยู่บนเสื้อผ้าของผู้ต้องหา 1 ใน 5 คนนี้ ซึ่งเป็นคนที่พูดเก่งๆ ซึ่งการฟ้องตรงครั้งนี้มีโทษสูงกว่าหมิ่นประมาทแน่นอน ซึ่งจริงๆแล้ว มีการสอบในสำนวนอยู่แล้ว แต่เรื่องไม่ทราบว่าตำรวจจะเอาใส่ในสำนวนส่งให้อัยการหรือไม่ ก็อยากให้อัยการตรวจสอบด้วย เพราะเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นการฆาตกรรม ซึ่งคดีนี้มันแปลกมาตั้งแต่ต้นแล้วเพราะขนาดผลชันสูตรเบื้องต้น ก็ยังไม่ได้ให้คุณแม่ของคุณแตงโมเลย

ส่วนหลักฐานที่ได้เพิ่มมาจากบังแจ็คนั้น นายอัจริยะบอกว่า ไม่ได้ใช้ในส่วนนั้น เพราะทางเรามีมากกว่า เพราะหลักฐานอะไรที่ส่งมาทีหลักเร่ก็ตรวจสอบก่อนเพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ แต่จะใช้หลักฐานที่เรามีซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญยืนยันและจับต้องได้

นายอัจฉริยะกล่าวต่ออีกว่า วันนี้จุดที่สำรวจจะมีด้วยกัน 3 จุดคือ วัดเขมา วัดค้างค้าว และบริเวณ ท่าทราย ใช้ระยะทางไม่มาก และใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง

ทั้งนี้ได้พูดถึงกรณีที่คุณแม่แตงโม เชื่อว่าแตงโมเสียชีวิตบนบกแต่มีผลชันสูตรออกมาว่ามีทราย มีโคลนอยู่ในปอด นายอัจฉริยะก็ชี้แจงว่า ต้องเข้าใจว่าคุณแม่ไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมายและไม่ได้มีความเข้าใจ แต่ตนก็ได้อธิบายไปแล้วว่า ที่บนบกคือคุณแตงโมถูกทำร้ายบนบก หรือบนเรือแต่ไปเสียชีวิตในน้ำ ซึ่งเป็นการตายอย่างทรมาน ซึ่งตอนนี้คุณแม่ก็เข้าใจดีแล้ว และตอนนี้ตนก็ได้นำพยานหลักฐานต่างๆให้คุณแม่ดูไปแล้ว ส่วนเรื่องทนายเดชาก็ควรหยุดได้แล้วเนื่องจากถอนตัวไปแล้ว ส่วนทางตัวเองไม่ได้สนใจ แต่ตัวคุณแม่ไม่ค่อยสบายใจ ส่วน ที่ส.ส.เต้ทำลงไปก็เกิดจากความโมโหที่ทนายเดชาไม่ยอมหยุดเรื่องคดีของคุณแตงโมเสียที