- 03 มิ.ย. 2565
"บุญถาวร" เล่าต่อ นิทานฆาตกรรมอำพราง ตอน 4 ชายสูงวัยสั่งเก็บนักแสดงสาว หลังรู้ความจริงว่านักแสดงสาวถูกเพื่อนสนิทหลอกลวงมาอย่างไม่เต็มใจและโดนโวยวายขู่ฟ้อง
ยังคงออกมาโพสต์ "เล่านิทาน" อย่างต่อเนื่องสำหรับนายบุญถาวร ที่ปรึกษาของส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ซึ่งล่าสุด "บุญถาวร" เล่าต่อ นิทานฆาตกรรมอำพราง ตอน 4 ชายสูงวัยสั่งเก็บนักแสดงสาว
**นิทานเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด*****
ผมมีนิทานเรื่อง"ฆาตกรรมอำพราง"จะเล่าให้พี่น้องประชาชนฟังเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจ&เรื่องหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นจริงในชีวิตจริงของคนบางคนอยู่ ณ ประเทศแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐนิทานตอนที่ 4 ผู้เล่านิทานขอเล่าซึ่งเป็นเรื่องแต่งขึ้นเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้หญิงที่มีเพื่อนสนิทเพื่อไม่ให้ตนเองต้องถูกทำร้ายเท่านั้นมิได้เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด
เมื่อความเงียบสงบในห้องพักเล็กๆที่เหลือเพียงตัวหญิงนักแสดงสาวสวยคนเดียว พอร่างกายเริ่มมีสติกลับมาแล้วทำให้ตัวเองรู้ว่าถูกเพื่อนหลอกและตนเองถูกกระทำมิดีมิร้าย พอตั้งสติได้รวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่หาหนทางเพื่อจะหนีเอาตัวรอดแต่ด้วยพิษของแอลกอฮอล์และพิษของยาชนิดหนึ่งที่กินเข้าไปเป็นเหตุทำให้ร่างกายตนเองไม่มีเรี่ยวแรงเพียงพอที่จะดิ้นรนหาหนทางออกจากห้อง
โทรศัพท์ภายในห้องก็ถูกตัดสายและโทรศัพท์ตัวเองก็ไม่มีไม่รู้หายไปไหน และในห้วงเวลาและจังหวะเดียวกันก็ปรากฏว่ามีเสี่ยคนเดิมเดินเข้ามาในห้องแล้วแจ้งกับนักแสดงสาวว่า "..ขอให้รีบอาบน้ำชำระร่างกายให้เวลา10นาที.." เพื่อนสาวคนสนิทจะมารับแล้ว ด้วยความดีใจนักแสดงสาวก็อาบน้ำแต่งตัวเพื่อรอให้เพื่อนมารับกลับไปตามที่เสี่ยคนดังกล่าวบอกตนเอง
เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะเสี่ยคนเดิมกลับเข้ามาแล้วยื่นโทรศัพท์ให้นักแสดงสาวคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสนิท เมื่อเสี่ยยื่นโทรศัพท์ให้นักแสดงสาวคุยกับเพื่อนสนิทยายตัวแสบนักแสดงสาวแสนสวยผู้แสนซื่อและน่าสงสารได้ร้องไห้ออกมาและพูดต่อว่าเพื่อนสาวคนสนิทต่างๆนานากล่าวหาว่าเพื่อนหลอกลวงให้มารับงานเอ็นเตอร์เทนและตนถูกกระทำมิดีมิร้าย ถ้าเพื่อนๆขึ้นมาจากการล่องเรือจะแจ้งความดำเนินคดีทั้งหมดทุกคนไม่มีเว้นแม้เป็นเพื่อนกันก็ตาม
กรณีดังกล่าวทำให้เสี่ยคนดังกล่าวรู้ความจริงว่าหญิงสาวถูกหลอกลวงมาโดยมิได้เต็มใจมาและกลัวความผิดจะถึงตัวเองจึงได้แย่งเอาโทรศัพท์มือถือจากนักแสดงสาวมาคุยเองและต่อว่าดุด่าเพื่อนสาวคนสนิทไปต่างๆนานา ถ้าเกลี้ยกล่อมให้นักแสดงสาวหยุดและไม่เอาผิดพวกตนเองกับชายสูงวัยไม่ได้จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก
และในขณะและเวลาเดียวกันขณะที่มีการพูดคุยสายกับเสี่ยคนดังเพื่อนสาวคนสนิทได้เปิดโฟนโทรศัพท์และทำให้เพื่อนๆที่อยู่บนเรือได้ยินเสียงการสนทนาทั้งหมดและเสี่ยคนดังกล่าวพูดด้วยด้วยน้ำเสียงอันดังว่า "..ขอให้พวกคุณหาทางแก้ไขปัญหาของเพื่อนคุณให้จบโดยเร็วในค่ำคืนนี้.."
กรณีดังกล่าวทำให้เพื่อนๆบนเรือรู้ความจริงว่านักแสดงสาวถูกเพื่อนสนิทหลอกลวงไปก็เกิดการทะเลาะโต้เถียงกันอย่างรุนแรงถึงการกระทำของเพื่อนสาวคนสนิท เพื่อนๆทุกคนในเรือเคลียดอย่างมากๆ จู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือโทรกลับมาหาเพื่อนสาวคนสนิทอีกครั้งและบอกกับทุกคนบนเรือว่า ขณะนี้นักแสดงสาวร้องไห้และโวยวายไม่หยุดแล้วนะ ผมไม่มีเวลาที่จะรองรับอารมณ์และต้องมาถูกด่าเสียๆหายๆแบบนี้เงินก็จ่ายตามข้อตกลงทุกอย่าง "...ซวยซิบหายว่ะ" แล้วก็วางสาย
ความเลวและความโหดร้ายของเพื่อนสาวคนสนิทที่หลอกลวงเพื่อนและประกอบความหงุดหงิดอารมณ์เสียของเสี่ยเมื่อได้รับโทรศัพท์จากชายสูงวัยที่โทรมาสอบถามหลังเสร็จภารกิจและกลับถึงที่พัก เสี่ยคนดังได้รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและในเวลาต่อมาก็ได้มีคำสั่งจากชายสูงวัยว่า "..เก็บมันซะถ้ามันคุยไม่รู้เรื่องอย่าปล่อยให้มันโอกาสพูด.." เสี่ยคนดังบอกว่า "ดีครับนายได้ครับท่าน .."
นักแสดงสาวนั่งร้องไห้อยู่ขอบเตียงเสี่ยเดินเข้าไปบีบคออย่างรุนแรงแล้วพูดว่า "..มึ...จะเอายังงัย เบื่อมึ...เต็มทนแล้ว.." นักแสดงสาวร้องไห้และพูดออกมาด้วยความอาฆาตมาดร้ายว่า " ..ไม่ยอม..จะแจ้งความจับมึ...กับพวกให้หมด.." เสี่ยโมโหได้ใช้กำลังต่อยเข้าไปที่เบ้าตาของนักแสดงสาวอย่างรุนแรงจนทำให้หญิงสาวทรุดไปนั่งกลับพื้น(รายละเอียดจะเล่าให้ฟังอีกทีว่าโดนทำร้ายยังไงใจเย็นๆฟังนิทานต้องอดทนคนเล่าก็อยากเล่าให้เห็นภาพความจริง)
ฟากฝั่งเพื่อนสาวคนสนิทกับเพื่อนๆพากันเครียดไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอย่างไรเมื่อนักแสดงสาวไม่ยินยอมและในขณะเวลาเดียวกันเสี่ยคนดังก็โทรศัพท์กลับมาแจ้งว่าตอนนี้จัดการสั่งสอนนักแสดงสาวไปแล้วด้วยการต่อยไป 1 ทีก็ยังไม่หยุดโวยวายสงสัยต้องจัดการขั้นเด็ดขาดเสียแล้ว
ในขณะและเวลานั้นยิ่งทำให้เพื่อนคนบนเรือพากันกลุ้มอกลุ้มใจอย่างมากและเกิดการโต้เถียงกันมากขึ้นว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ทุกคนเคลียดต่างคนต่างโทรศัพท์ปรึกษากับเพื่อนๆและที่ปรึกษาทางกฎหมายของตนเองว่าจะทำอย่างไรดี(คิดหนัก)
ในขณะที่เพื่อนสาวคนสนิทและคนบนเรือกำลังคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหาอยู่นั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาเพื่อนสนิทสาวนักแสดง เสี่ยคนดังพูดผ่านโทรศัพท์มาว่า "..คงต้องให้จัดการเด็ดขาดแต่เพื่อให้มันมีโอกาสรอดและ..ไม่อยากฆ่าใครอีกพวกเอ็งลองติดต่อไปหาแม่มันสิว่านาย..จะให้เงินมันก้อนหนึ่งเป็นการเยียวยาและให้จบเรื่องนี้ไปและให้มารับตัวเพื่อนของมึ...คืนภายในค่ำคืนนี้ไป จะแจ้งสถานที่อีกที ย้ำให้รีบติดต่อไปนะอย่าให้เป็นข่าวเด็ดขาด… ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องจะจบและยุติให้เพื่อนมึ..ไปเกิดใหม่.."
เพื่อนสนิทสาวของนักแสดงสาวได้ยินเรื่องดังกล่าวยิ่งเครียดอย่างมากทำอะไรไม่ถูกและทุกคนที่ได้ยินเหตุการณ์เครียดไปตามๆกันครับ..!
วันนี้พอดีผมคนเล่านิทานมีภารกิจวันนี้วันหยุดราชการ มีงานเร่งด่วนต้องไปเกี่ยวหญ้าให้ควายจำนวน5ตัวคนเล่านิทานเลี้ยงควายครับควายเป็นสัตว์ก็จริงแต่ไม่เคยหลอกลวงใคร ขอตัวไปเลี้ยงควายก่อนนะครับ จึงมิอาจเล่านิทานให้จบได้ในวันนี้ (รอติดตามนิทานตอนต่อไป)
***พี่น้องประชาชนครับ..นิทานเรื่องนี้ถ้าสมมุติฐานเป็นความจริงในชีวิตจริงของหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่คนเดียวไม่มีเพื่อนไม่มีมือถือและไม่รู้ชะตากรรมตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับต่อจากนั้นไป..! มันช่างเป็นเรื่องที่แสนโหดร้ายเหลือเกิน..!
ความจริงนักแสดงสาวแสนสวยผู้น่ารักถูกเพื่อนรักและเพื่อนสนิทหักหลังจนนำไปสู่การตายบนความโลภของเพื่อนและมีเพื่อนๆที่เลวร้ายและสังคมโลกปัจจุบันยังมีพวกบ้าตัณหากามราคะ นิทานเรื่องนี้จะสอนผู้หญิงและผู้คนอีกมากมาย "อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคนง่ายๆ" การที่ตนมีเพื่อนเชื่อใจเพื่อนจนเกินไปโดยที่ตนเองไม่เคยหวาดระแวงสงสัยในการกระทำของเพื่อนหญิงสนิทคนดังกล่าวซึ่งเป็นคนโกหกและต..แห..กับสังคมเพื่อให้ตนเองพ้นผิด
นิทานเรื่องเล่าขานเรื่องนี้ยังไม่จบผมจะเล่าให้ฟังในตอนต่อไป
นิทานไม่ใช่เรื่องจริงหรืออาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้เพราะว่าเป็นการแต่งนิทานจากชีวิตจริงของคนใดคนหนึ่งหรือไม่มีมูลความจริงใดๆแต่แต่งขึ้นเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจบุคคลในสังคมให้รู้จักระมัดระวังภัยใกล้ตัวของสังคมปัจจุบัน
ปล.นิทานเรื่อง"เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด"ยังไม่จบยังมีอีกหลายตอนผมจะเล่าให้ฟังจนจบและยังมีเหตุการณ์และความมันส์และความจริงและความเท็จและความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นการตีแผ่กระบวนการยุติธรรมของประเทศแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลทะเลโพน@แต่ยืนยันว่านิทานเรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนหนึ่งส่วนใดเกิดขึ้นที่ประเทศไทยแต่อย่างใดนะครับ
คนเล่านิทาน
ฉายา "ทนายบุญไขข่าวคลายปัญหา" 3 มิถุนายน 2565
ขอบคุณ บุญถาวร ปัญญาสิทธิ์