รวบ "หนุ่ม ดอนหัวฬ่อ" ขี่ประกบยิงสาวออฟฟิศเจ็บสาหัส ได้ค่าจ้าง 1 แสน

รวบหนุ่ม ดอนหัวฬ่อ มือขี่ประกบยิงสาวออฟฟิศได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนอ๊อด มือยิงประกาศสู้เจ้าหน้าที่

จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ประกบใช้อาวุธปืนยิงนางอาภัสรา เกษมสรวล อายุ 56 ปี ขณะขับรถยนต์เก๋ง จังหวัดชลบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส  เหตุเกิดที่หมู่ที่ 1 ต.มาบโป่ง อ.พานทอง จ.ชลบุรี  เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 18.45 น. โดยคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมิโอ สีขาว-เหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาประกบที่บริเวณด้านขวาของรถ จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ นางอาภัสราฯ บริเวณด้านหน้าฝั่งขวาจำนวนหลายนัด ทำให้รถเสียหลักและพุ่งตกลงไปในคลองน้ำข้างถนน จากนั้นคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป 

พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.  พล.ต.อ.สุชาติ  ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส) กำชับให้ บช.ภ.2 เร่งรัดสืบสวนและจับกุมตัวคนร้ายซึ่งมีพฤติกรรมอุกอาจลักษณะเป็นมือปืนรับจ้างให้ได้โดยเร็ว

 

          
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 18.10  น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2  กก.สส.จว.ชลบุรี และ สภ.พานทอง จว.ชลบุรี ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2  พล.ต.ต.ชัยพจน์  สุวรรณรักษ์รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี  ให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.ภ.2  พ.ต.อ.วราวุธ เจริญชนม์ รอง ผบก.สส.ภ.2 โดยมี พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้สึก ผกก.สืบสวน 1  พ.ต.ท.ประจักษ์พงษ์ สุริยา พ.ต.ท.นรามินธร์ เทพจักรินทร์ พ.ต.ท.สุวัฒน์  บริรักษ์ รอง ผกก.ฯ , พ.ต.ต.เอกกร วรรณทอง สว. , พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.ฯ พ ต.ต.อสวรรธน์  ศิระเวรินทร์ สว.ฯ กับพวก  พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พานทอง ประกอบด้วย พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผกก.สภ.พานทอง กับพวก และ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.สืบสวนภ.จว.ชลบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสมพงษ์หรือหนุ่ม ดอนฟัวฬ่อ อายุ 42 ปี มีที่อยู่ในพื้นที่  ม.4 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี (ขับขี่รถจักรยานยนต์) ผู้ต้องหา  ตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี เลขที่ จ.270/2565 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2565 พร้อมของกลาง 

1. กระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 3 นัด ขนาดเดียวกับอาวุธก่อเหตุ 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมิโอ สีขาว-เหลือง ทะเบียน 1กค 7373 ชลบุรี ผู้ต้องหาขี่กระทำความผิด 3.กางเกงยีนส์ ขายาวที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ 4.รองเท้าแตะ สีดำ สวมใส่ในวันก่อเหตุ 5.กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล สวมใส่ในวันก่อเหตุ 6.เงินสด จำนวน 29,440 บาทเหลือจากค่าจ้าง
 

 

โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรและยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน"  สถานที่จับกุม ที่หน้าอาคารพาณิชย์เลขที่ 105/10 ม.12 ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี 

พฤติการณ์จับกุม   กล่าวคือ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 18.45 น. ขณะ นางอาภัสรา เกษมสรวล อายุ 56 ปี ได้ขับรถยนต์มาตามถนนสุขประยูร จากชลบุรีมุ่งหน้าไปทาง อ.พนัสนิคม เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ หมู่ที่ 1 ต.มาบโป่ง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้มีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมิโอ สีขาว-เหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาประกบที่บริเวณด้านขวาของรถ 

 

 

จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถของ นางอาภัสรา บริเวณด้านหน้าฝั่งขวาจำนวนหลายนัด ทำให้รถของนางอาภัสรา เสียหลักและพุ่งตกลงไปในคลองน้ำข้างถนน จากนั้นคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป นางอาภัสรา ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณไหล่ขวา 1 นัด และที่บริเวณหางคิ้วขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.พานทอง ในเวลาต่อมา 

หลังเกิดเหตุพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 ได้สั่งการ พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้สึก ผกก.สืบสวน 1  พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 สืบสวน ภาค 2 ได้ร่วมกับ สภ.พานทอง  สืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ โดยได้แบ่งกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายก่อเหตุ ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุอย่างละเอียด จนพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน คือ นายสมพงษ์หรือหนุ่ม  อายุ 42 ปี คนขี่และ นายศตวรรษหรืออ๊อด  อายุ 46 ปี คนยิง  โดยก่อนเกิดเหตุ นายสมพงษ์ฯ ขับขี่รถจักรยานยนต์ตรงตามที่คนร้ายใช้ก่อเหตุมารับนายศตวรรษ ที่หอพักไม่มีเลขที่ ม.6 ถ.บ้านเก่า 5 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยทั้ง 2 คน แต่งกายในลักษณะตรงกันกับคนร้ายที่ก่อเหตุ และหลังเกิดเหตุก็ได้เดินทางกลับมาที่หอพักดังกล่าวแล้วจึงหลบหนีไป จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองต่อศาล และต่อมาได้สืบสวนติดตามจนพบตัว จึงจับกุมตัวส่ง สภ. พานทอง จังหวัดชลบุรีดำเนินคดีตามกฎหมาย  

 

นายสมพงษ์ผู้ต้องหาให้การรับว่าก่อนเกิดเหตุ 2 วัน นายอ๊อดได้มาชวนนายหนุ่มให้ทำงานว่ามีงานยิงผู้หญิงโดย นายอ๊อดบอกจะเป็นคนยิงเอง  วันเกิดเหตุนั่งดื่มสุราด้วยกันนายอ๊อดก็ชวน นายหนุ่มไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอพักนายอ็อด จากนั้นขี่รถ จยย.ของนายหนุ่มไป ที่พานทองไปถึงเฝ้าจุดยิงประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเห็นผู้หญิงออกมาขึ้นรถยนต์ จึงได้ขับตาม จนถึงที่เกิดเหตุ ได้ขับรถยนต์ประกบฝั่งขวา โดยนายอ๊อดเป็นคนยิง ยิงหมดแม็ก แล้วก็ขับหนี ไปทางเรียบคลอง แล้วจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งหมวกกันน็อคและเสื้อแขนยาวที่สวมใส่ ทั้ง 2 ใบ ทิ้งระหว่างทาง ตนได้รับค่าจ้าง 1 แสนบาท  แล้วแยกย้ายกันหลบหนี โดยนายอ๊อดบอกว่าจะสู้กับตำรวจไม่ยอมถูกจับติดคุก ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ทราบว่าผู้จ้างวานเป็นผู้ใดเพราะนายอ๊อดเป็นคนรับงานส่วนนายอ๊อดยังไม่ทราบหลบหนีไปไหน  เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำความผิดและผู้ว่าจ้างต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า "คดีนี้คนร้ายก่อเหตุลักษณะเป็นมือปืนรับจ้างยิงผู้หญิงกลางถนนอย่างโหดเหี้ยม เราระดมชุดสืบสวนหาพยานหลักฐานอย่างละเอียด จนพบหลักฐานชิ้นสำคัญส่วนหนึ่งมาจากกล้องวงจรปิดตามโครงการ สมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0(  Smart Safety Zone 4.0  ) ของพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงสามารถสืบสวนจนทราบตัวคนร้ายใช้เวลาเพียง 5 วัน   ส่วนนายศตวรรษหรืออ๊อด ทองคำ อายุ 46 ปี ทำหน้าที่มือปืนยังหลบหนีอยู่พร้อมอาวุธปืน และได้ประกาศสู้ตายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ได้กำชับกับผมให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่โดยเน้นตามหลักยุทธวิธีอย่างเคร่งครัด"