เปิดความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา "อดีตผู้พิพากษา-พ่อโส" ไม่แปลกใจอยากช่วยแตงโม

เปิดความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา "อดีตผู้พิพากษา-พ่อโส" ไม่แปลกใจอยากช่วยแตงโมมากๆ โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย แต่ล่าสุด นายชนบท ได้เปิดเผยความสัมพันธ์ว่าจริงๆแล้วตนสนิทกับพ่อโสภณมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ลั่น "ผมจะใช้ความสามารถทุกอย่างที่ผมมี ทำให้คนที่ร่วมกันทำร้ายน้องต้องชดใช้"

ผมหรือ ? ที่ไม่ทำงานเป็นทีม ไม่ฟังความคิดเห็นผู้ร่วมทีม ?

...ผมเคยกล่าวไว้ในรายการโหนกระแสในเทปที่ผมได้ไปออกรายการเป็นครั้งที่ 2 พร้อมกับคุณหญิงหมอพรทิพย์ว่า ถ้าผมได้เข้าไปทำคดีของน้องแตงโม ผมจะฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 5 ในมาตรา 290 คือ เจตนาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลักฐานประกอบคำฟ้อง คือ ร่องรอยบาดแผลบนร่างกายของน้องแตงโม หากศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับรับฟ้อง จะทำให้มีการไต่สวนสืบพยานในชั้นพิจารณา และการฟ้องในมาตรา 290 สามารถลื่นไหลไปยังมาตราอื่นๆ ได้อีก หากในระหว่างการพิจารณาคดีพบหลักฐานอื่นเพิ่มเติมที่ทำให้ศาลเห็นว่า มีเจตนาฆ่ามากกว่ามีเจตนาแค่ทำร้าย โทษที่ได้รับก็จะหนักขึ้น ซึ่งการฟ้องในมาตรา 290 โอกาสที่ศาลจะประทับรับฟ้องมีมากกว่าการฟ้องด้วยมาตรา 288, 289 คือ เจตนาฆ่า เพราะพยานหลักฐานอาจยังไม่เพียงพอให้ศาลรับฟังว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 มีเจตนาฆ่าผู้ตายตามฟ้อง ซึ่งอาจทำให้ศาลยกฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 5 ได้ 

...เหตุใด ผมจึงเลือกฟ้องมาตรา 290 เพราะผมใช้หลักเกณฑ์ในการตัดสินคดีของศาลและนำประสบการณ์ที่ผมเคยเป็นอดีตผู้พิพากษาตัดสินคดีความมากว่า 18 ปี และเคยปฏิบัติงานเป็นผู้ช่วยศาลอุทธรณ์อยู่กองเซ็นเซอร์ทำหน้าที่ตรวจสำนวนคำพิพากษาของท่านผู้พิพากษาทั้งหลายว่า ได้ตัดสินถูกต้องแล้วหรือไม่ หรือมีจุดที่ต้องแก้ไขเพียงใด หรือไม่ ก่อนมีคำสั่งพิพากษายกฟ้องโจทก์หรือลงโทษจำเลยอีกถึง 5 ปีเต็ม นอกจากนี้ผมได้ปรึกษากับผู้ทรงคุณวุฒิอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาซึ่งมีความเห็นตรงกัน การตัดสินคดีความต้องตัดสินไปตามพยานหลักฐานที่นำสืบในชั้นศาล ไม่ใช่ตัดสินตามความรู้สึก 

...ทำไมผมจึงเสนอตัวเข้ามาทำคดีนี้ ทั้งๆ ที่ตลอดเวลาที่เป็นทนายความมาเกือบ 20 ปี ผมไม่เคยง้อขอทำคดีจากลูกความรายใดมาก่อน ด้วยความที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ก็เพราะน้องแตงโมเป็นลูกสาวของโสภณซึ่งเป็นเพื่อนรักของผม ผมกับโสภณสนิทกันตั้งแต่ยังเป็นนิสิต มธ. โสภณเป็นน้องรหัสของผม ผมเห็นน้องแตงโมมาตั้งแต่เล็ก 

หลังจากโสภณหย่าเขาก็มักจะพาลูกสาวตัวน้อยติดสอยห้อยตามไปไหนมาไหนด้วยเสมอ แตงโมจึงเปรียบเสมือนหลานสาวของผมคนหนึ่ง เมื่อเพื่อนผมโทรมาแจ้งข่าว " ไอ้หลีเห็นข่าวน้องแตงโมลูกโสภณตกเรือหรือยัง " หลังจากนั้นผมก็เฝ้าติดตามข่าวของน้องแตงโมอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งกู้ภัยพบร่างไร้วิญาณของน้อง ผมสัญญากับดวงวิญญาณของโสภณและน้องแตงโมไว้ว่า ผมจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับหลานสาวตัวน้อย ผมจะใช้ความสามารถทุกอย่างที่ผมมี ทำให้คนที่ร่วมกันทำร้ายน้องต้องชดใช้ ทุกคนต้องได้รับกรรม 

การที่ผมโพสต์ประกาศถึงแม่น้องแตงโมว่า ผมขอเป็นทนายให้โดยคิดค่าว่าความเพียง 100 บาท เพราะผมไม่สนิทกับแม่ของน้องแตงโมเหมือนที่ผมสนิทกับโสภณ ผมต้องการเข้าไปทำคดีนี้ก็เพื่อให้ความจริงปรากฎ คดีนี้ไม่ยากหากผู้ต้องหาเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา แต่ที่ยากเพราะผู้ต้องหาเป็นคนมีเงิน และอาจมีกุนซือที่มีความรู้เรื่องกฎหมายเกินทนายความคอยให้คำแนะนำ ที่จะช่วยให้ตัวเองพ้นคุก 

...ผมเป็นทนายว่าความมาเกือบ 20 ปี คดีที่ผมรับมาทำตั้งแต่ศาลชั้นต้นและต่อสู้คดีไปจนถึงศาลฎีกา ผมไม่เคยแพ้คดี ผมเป็นนักสร้างฎีกา และผมนำฎีกาที่ต่อสู้ชนะมาเขียนหนังสือขายให้ทนายอ่าน ปัจจุบันผมเปิดศูนย์อบรมทายใหม่ โดยมีลูกศิษย์ให้ยืมใช้อาคารพาณิชย์เป็นสถานที่ฝึกอบรม เป็นครูสอนวิชาว่าความให้ทนายใหม่เป็นทนายมืออาชีพ จะได้ไม่ต้องไปหลอกลวงลูกความรายใด หวังเพียงให้ลูกความได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ผมทำไม่มากก็น้อย โดยเก็บค่าเรียนเพียงคนละ 100 บาท ผมกับลูกศิษย์เปิดชมรมช่วยเหลือผู้ยากไร้ทางคดี และผมรับลูกความที่จ่ายเงินค่าปรึกษาคดีกับผมเข้าชมรมช่วยเหลือผู้ยากไร้ทางคดีแล้วหลายราย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่ม และไม่ได้ประกาศออกสื่อเพื่อเอาหน้าแต่อย่างใด ผมอายุ 73 ปีแล้ว เหลือเวลาอีกไม่มากที่จะหายใจ ผมพยายามทำสิ่งดีๆ ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกนึกถึงผมบ้างในวันที่ผมจากไป 

...ผมไม่ได้ต้องการชื่อเสียงหรือหิวแสง แต่ผมทำเพื่อโสภณเพื่อนรักของผม ผมต้องการทำความจริงให้ปรากฎ ทำเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้หลานสาวผม เพื่อให้ดวงวิญาณของทั้งสองหมดห่วง ได้ไปสู่สุติ ไปสู่ภพภูมิที่ดี ที่ผมต้องการก็มีเพียงแค่นี้ครับ.

ขอบคุณ กฎหมายชนบท