- 19 มิ.ย. 2565
วิเคราะห์สาเหตุ ร้านซูชิ-บุฟเฟ่ต์ชื่อดัง เจ๊งสนิท แจงความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน อย่างน้อยๆ ตอนนี้มี 4 ฝ่ายที่คาดว่าได้รับผลกระทบ
วิเคราะห์ ร้านซูชิ-บุฟเฟ่ต์ชื่อดัง เจ๊งสนิท เสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน สืบเนื่องจากกรณี ร้านซูชิและบุฟเฟ่ต์ชื่อดัง ปิดสาขาทุกแห่งแบบไม่มีกำหนด และทำให้มีผู้เสียหายจากกรณีนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมา หนึ่งในผู้จัดการสาขาได้ออกมาระบายความในใจ ว่าไม่ใช่ลูกค้าที่เสียหาย แต่ทางพนักงานก็เสียหายเหมือนกัน
ด้านเรื่องผลกระทบวงกว้างของ ร้านซูชิชื่อดังร้านนี้ นั้น ซึ่งตอนนี้คาดว่าความเสียหายทั้งหมด น่าจะอย่างน้อย 100 ล้านบาท และมีแชทหลุดออกมาว่า ตอนนี้ผู้บริหารได้ออกจากกลุ่มไลน์ไปแล้ว และคาดว่าตอนนี้ได้หนีออกนอกประเทศไปอยู่ดูไบ และ อย่างน้อยๆ ตอนนี้มี 4 ฝ่ายที่คาดว่าได้รับผลกระทบคือ
1. ลูกค้าที่ซื้อวอยเชอร์ โดยที่คาดว่าวอยเชอร์ขายออกไปแล้วมากกว่า 2 แสนใบ คาดว่ามูลค่าความเสียหาย 20 ล้านบาท
2. ซัพพลายเออร์ที่ขายปลาแซลมอนให้ร้าน โดยจากกระแสข่าวว่า มีการค้างค่าปลากว่า 30 ล้านบาท
3. นักลงทุนที่ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ไปเปิด คนละ 2.5 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าตกแต่งและค่าเช่าสถานที่ มีทั้งหมด 20 สาขา คิดเป็นเงินไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
4. พนักงานที่ไม่ได้รับเงินเดือน คาดว่าอย่างน้อยพนักงานประมาณ 270 คน ที่ตกงาน
จากการสันนิษฐานพบว่าผลกระทบเนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ราคาปลาแซลมอนเพิ่มขึ้นอย่างหนัก จากแต่ก่อนที่ทางร้านขายราคาบุฟเฟ่ต์ที่ 499 บาท จากนั้นก็ลดราคาเหลือ 250 บาท
และล่าสุดคือ 199 บาท ทางผู้บริหารจึงตัดสินใจขายวอยเชอร์ออกไปก่อน เพื่อเป็นการดึงเงินเข้าสู่ระบบ และหวังว่าราคาแซลมอนจะลดลง แต่เมื่อแซลมอนราคาไม่ลด และวอยเชอร์ก็ขายไปล่วงหน้า ทำให้ผู้บริหารหมุนเงินไม่ทัน จึงนำมาสู่คำว่า ยิ่งขายดี ยิ่งเจ๊ง
ทั้งนี้หลายคนได้นำโมเดลนี้ไปเทียบกับกรณีของแหลมเกตุ ร้านซีฟู้ดชื่อดังในอดีต ที่ขายวอยเชอร์ในราคาถูกมาก แต่สุดท้ายยิ่งขายยิ่งเจ๊ง เพราะราคาที่ขายไม่ได้สะท้อนกับต้นทุนราคาจริงๆ จนทำให้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และผู้บริหารถูกสั่งจำคุก 20 ปี
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ สคบ. ยืนยันให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย เก็บรวบรวมหลักฐาน เอกสาร และร้องเรียนมาที่ สคบ. ได้ทันที