อาลัย สาวน้อยหัวใจแกร่ง สู้โรคร้ายถึง 2 ครั้ง เคยทำใจถึงขั้นซ้อมเสียชีวิต

อาลัย สาวน้อยหัวใจแกร่ง สู้โรคร้ายถึง 2 ครั้ง เคยทำใจถึงขั้นซ้อมเสียชีวิต โรคมะเร็งถือเป็น โรคร้ายที่คร่าชีวิตหลายคนที่รักไปมากมายแล้ว ซึ่งหากตรวจเจอตั้งแต่ต้นก็อาจจะยังพอมีทางรักษา แต่ถ้าหากถลำลึกเกินว่าทางการแพทย์จะช่วยเหลือได้ หลายคนก็ต้องทำใจกับความสูญเสียที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เชื่อเลยว่า น้อยคนที่มีหัวใจแข็งแกร่งพอที่จะยอมรับกับเรื่องราวกะทันหันเหล่านี้ได้ ซึ่งสาวน้อยที่ชื่อ น้องน้ำแข็ง เป็นหนึ่งในนั้น 

น้องน้ำแข็ง พิมพ์ธิฌาย์ ฤทธาธนาเศรษฐา สาวน้อยที่ตรวจเจอ มะเร็งกระดูก Ewing Sarcoma ตั้งแต่ 6 ขวบ ซึ่งก่อนหน้านี้ คุณแม่ของน้องได้แจ้งข่าวดีว่า น้องน้ำเเข็งหายเเล้ว จากการเริ่มรักษาด้วยแผนปัจจุบัน ผ่านการให้เคมีบำบัด 12 คอร์ส ซึ่งจริงๆแล้ว ตามแผนคือ 14 คอร์ส แต่หลังผ่าตัดแล้วไม่พบเซลล์มะเร็งแล้วคุณแม่เลยขอลดหมอได้ไป 2 คอร์ส ต้องรักษาคอร์สละ 2 วัน และ 5 วัน สลับกันเลขคู่ เลขคี่ ซึ่งการผ่าตัดหน้าท้อง 5 ครั้ง  การผ่าตัดที่ยาวนานที่สุด คือ 17 ชม. และการฉายแสง 31 แสง 

แต่แล้ววันที่ 12 เมษายน 2565 ครอบครัวก็ต้องพบการข่าวร้ายอีกครั้ง เมื่อผล MRI ระบุว่า น้องน้ำเเข็ง พบสิ่งผิดสังเกตตรงเส้นเลือดใหญ่บริเวณช่องท้อง พบว่ามันหนาๆ และตรงปอดมีจุดอะไรบางอย่าง  ซึ่งน่าจะเป็นการกลับมาของโรค ต่อด้วยการยืนยันจากคุณหมอโรคเลือดเด็ก ซึ่งมีความเป็นไปได้เนื่องจากจบคีโมมาเป็นปีแล้ว และก้อนเนื้อร้ายเก่าติดเส้นเลือดดำใหญ่ทำให้ไม่สามารถเอาออกได้หมดตั้งแต่แรก ทำให้มันมีโอกาสกลับมา 

"ใช่ค่ะน้องน้ำแข็งกลับมาเป็น "มะเร็ง" รอบสอง" คุณแม่ระบุ

ก่อนที่ทางแม่น้องน้ำแข็งจะได้อัพเดตข่าวอาการป่วยของน้องอีกครั้งว่า "อัพเดทอาการน้องน้ำแข็งค่ะ หลังจากทรงๆ ดีขึ้น สลับแย่ลงอยู่ 3 สัปดาห์ หลอกให้มีความหวังกันว่าคงหายในเร็ววัน บทจะอาการดิ่งภายใน 5 วันหลัง เกิดขึ้นไวมาก อาหารหายใจอึดอั้น ทรมานที่หายใจไม่ทัน ความรู้สึกเหนื่อยแม้อยู่เฉยๆ 

กินข้าวได้น้อยลงเพราะไอกับระคายคอ เรี่ยวแรงน้อยลง ปกติถ้าแค่พอมีแรงจะวิ่งหาของเล่น วาดรูป เต้นไปเต้นมา ร้องชวนอยากให้พาไปคิดซูน่า  น้องเป็นเด็กร่าเริงมาก กลับต้องมาเฉาๆอยู่ เกือบเดือน ในใจก็รอเมื่อไรจะหายนะ อยากให้เด็กน้อยกลับมาสดใสร่าเริง จะได้พาไปเที่ยว แต่คราวนี้น่าจะคาดหวังกับร่างกายของน้องไม่ได้แล้ว มะเร็งมันเต็มปอดแล้ว...

แต่ไม่เป็นไรทำเต็มที่แล้ว ทั้งเคยผ่านการรักษาแบบโหดๆ และผลข้างเคียงของรอบแรกมาได้ก็สำหรับเด็กอายุแค่เนี้ย ก็ถือว่าลูกสาวเต็มที่แล้วจริงๆ  ถ้ามะเร็งกลับมารอบ 2 ถ้าฝืนไม่ได้ เป้าหมายบ้านนี้คือไม่ฝืน  จะไม่คีโม ผ่าตัด ฉายแสง อะไรอีก เพราะน้องก็เข็ดขยาดมากๆ เรามีเป้าหมายตั้งรับไว้แล้ว ว่าขอแค่ให้น้องจากไปแบบสบายๆ ไม่ต้องทรมาน  น้องน้ำแข็งมีส่วนรวมในการตัดสินใจครั้งนี้อนุมัติให้ผ่านมติเห็นชอบค่ะ

 

ในฐานะพ่อแม่ แม้จะสูญเสียลูก แต่เรากลับคิดว่าจริงๆ ต้องเสียใจหรอ มันก็มีความน่ายินดีที่ลูกสาวเราไม่ต้องอยู่ในร่างกายที่ไม่แข็งแรง เราพ่อแม่ลูกได้มีโอกาสตั้งรับในการเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่าความตาย และความพลัดพรากตั้งหลายวัน มีโอกาสได้พูดคุยและอโหสิกรรมต่อกัน มีโอกาสได้อยู่กับลูกจนวาระสุดท้ายของเขา เราได้มีโอกาสได้ดูแลลูกจนวินาทีสุดท้าย 

 

ซึ่งจิตใจที่ดีงามของน้องน้ำแข็ง  และความสนใจธรรมะที่มีติดตัว ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าลูกไปทางสว่างค่ะ แล้วเราจะเสียใจไปทำไมกัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันอาจเป็นเรื่องน่ายินดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ หลวงพ่อปราโมทย์ท่านสอนว่า ร่างกายเป็นตัวทุกข์ ตัวทุกข์มันจะตายจะไปเสียใจทำไม เหตุการณ์เสียลูกไปเป็นเหตุการณ์ร้ายแรง แม้ตอนนี้น้องยังอยู่ แต่เราก็พอคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้  เราต้องมีสติพิจารณาสิ่งต่างๆให้ดีก่อนจะมัวแต่เสียใจอย่างเดียว

 

สำหรับตัวน้องน้ำแข็ง ก็ตั้งรับในการทิ้งร่างกายนี้แล้วค่ะ ไม่ร้องไห้ ไม่เสียใจ เพราะเข้าใจดีว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว ร่างกายนี้สั่งไม่ได้ บังคับไม่ได้  ถือว่าเป็นเด็กที่ได้มีโอกาสเตรียมพร้อมเผชิญกับความตายๆ โดยพิจารณาธรรมจะเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอทุกท่านช่วยอวยพรให้การเดินทางครั้งนี้ของน้ำแข็ง ถูกต้องตามอริยมรรคเป็นไปตามทางอันประเสริฐที่องค์พระพุทธเจ้าชี้ไว้ดีแล้ว" 

คุณแม่ยังได้เล่าอีกว่า "น้องน้ำแข็งซ้อมเตรียมตัวเสียชีวิตกับแม่บ่อยๆ จนก่อนวันเสียชีวิตจริง 1 วัน น้องจากไปอย่างสงบ แบบสดใส หน้าตายิ้มแย้ม เป็นการจากไปที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้ ม้าควรจะต้องยินดี เพราะความสุขของหนู คือความสุขของม้า" ทำให้ชาวเน็นและเพื่อนๆ ต่างเข้ามาไว้อาลัยต่อการสูญเสียครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง 

 

ทั้งนี้ ถ้อยคำที่ น้องน้ำแข็งได้พูดคุยกับคุณแม่ยังมีอีกว่า "ม้าซ้อมตายแล้วถ้าเกิดไม่ตายอะไม่ซ้อมฟรีเหรอ?? ไม่ตายไม่เป็นไรแต่ถ้าตายเราซ้อมตายเผื่อไว้แล้ว จะได้ไม่ขาดทุน

สมมุติถ้าหนูต้องตายหนูจะเสียใจอะไรบ้างไหม ?? ก่อนจะไป จิตใจต้องหมดห่วงก่อน

หนูมีความฝันอยากเป็นนักวาดรูปมืออาชีพหนูยังไม่ได้ทำเลยยังไม่อยากตาย จะอยู่หรือจะตายถ้าชอบวาดรูปอยู่ที่ไหนก็วาดได้ สำคัญที่หนูต้องไปดี ไปด้วยจิตดีอย่ามีห่วง

ถ้าหนูตายไปม้าจะเสียใจมากไหม ?? #หนูไม่อยากให้ม้าเสียใจอยากตอบแทนบุญคุณม้าที่เหนื่อยดูแลหนูมาตลอด ยามม้าแก่หนูอยากเป็นคนดูแลม้า หนูไม่ต้องห่วงหากหนูไปดี ไปด้วยจิตที่ปล่อยวาง หนูจะมาหาม้าเมื่อไหร่ก็ได้ และเมื่อยามม้าแก่ ม้าดูแลตัวเองได้ ม้ามีญาติพี่น้อง ม้ามีเงินเก็บ หนูสบายใจได้ ม้าหวังแค่หนูได้ไปอยู่ดีมีสุข..."

อย่างไรก็ตาม สำหรับร่างของ น้องน้ำแข็ง นั้น ในวันจันทร์ ที่ 20 มิ.ย.65 เวลา 1600 พิธีประชุมเพลิงศพ ณ เมรุ ฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ ชลบุรี

ข้อมูลจาก พิมพ์ธิฌาย์ ฤทธาธนาเศรษฐา