แฉอุทาหรณ์ วิศวกร ก่อผนังสุดชุ่ย ใครสร้างบ้านต้องรู้ ไม่งั้นทุบทิ้งหมด

เพจเฟซบุ๊กชื่อได้  ฉิบหายแล้วบ้านกู ได้ออกมาโพสต์ข้อความให้ความรู้ แฉวิศวกรมักง่าย ต้องทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่หมด

เชื่อเหลือเกินว่า หลายคนคงมีความฝัน ที่อยากจะสร้างบ้านเป็นของตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต แต่รู้หรือไม่ ว่าก่อนที่จะสร้างนั้น ต้องศึกษาให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัสดุต่างๆ หรือช่างที่ไว้ใจได้ วันนี้เพจเฟซบุ๊ก ฉิบหายแล้วบ้านกู ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า 

REJECT ทั้งหมด

ทุบให้เกลี้ยง แล้วขึ้นใหม่

 

ปัญหาของ ผนังก่ออิฐ ฉาบปูน ที่จุกจิกและกวนใจสุดคือ อาการแตกร้าว

เพราะการแตกร้าวหลายๆชนิด มันไม่สามารถแก้ให้หายขาดได้

คือแก้แล้ว เดี๋ยวก็กลับมาแตกที่เดิม

แล้วเมื่อผนังมีการแตกร้าว จะมีปัญหาอีกหลายอย่างตามมา

เช่นเกิดการรั่วซึม เกิดความชื้น เกิดรา มีเห็ดขึ้น

และอาจจะลามไปถึงขั้น เกิดการระเบิด หรือแตกร้าวขนาดใหญ่

จนทำให้เกิดปัญหาบ้านเสียหายรุนแรง

 

ปัญหาผนังแตกร้าว จะมี 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ

1. แตกร้าวจากการทรุดตัว และ การทำงานไม่ได้มาตรฐาน

2. การยึดหดตัวของวัสดุ จากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ

ซึ่งจากรูป ที่ต้อง REJECT ผนังตามที่เห็น ( และเกือบทั้งบ้านนี้ )

มันเป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาข้อที่ 2

ลองสังเกตุดีๆ จะเห็นว่า ในผนัง 1 แผงนี้เอง

มีการใช้อิฐ 3 ชนิดมาก่อเป็นผนัง

คืออิฐเซรามิค ( อิฐพันปี )

อิฐมอญชนิดมีรู

และอิฐมอญโบราณ ชนิดตัน

 

ซึ่ง อิฐทั้งสามชนิดนี้ มีขนาดก้อนที่ต่างกันมากๆ

และมีอัตราการสะสมความร้อนที่ต่างกันด้วย

ที่สำคัญ

อิฐทั้งสาม มีอัตราการยืด หด ตัวเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไม่เท่ากัน

และ 3 อย่างนี้ นี่คือเหตุผลของต้นเหตุปัญหาผนังแตกร้าว

จากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ

 

เพราะเมื่อผนังโดนความร้อน จะเกิดการสะสมความร้อนเข้ามาในอิฐ

ขนาดก้อนที่ต่างกัน จะทำให้ความสามารถในการสะสมความร้อนต่างกัน

ก้อนใหญ่ ก็มีความร้อนได้มากกว่า ก้อนที่เล็กก็สะสมน้อย

และ เมื่อสะสมความร้อนแล้ว วัสดุทุกชนิดจะเกิดการขยายตัว

ทีนี้ ด้วยความที่วัสดุแต่ละชนิด ก็จะมีอัตราการขยายตัวได้ต่างกันอีก

มันจึงเกิดมีอิฐที่ขยายตัวมาก และ อิฐที่ขยายตัวน้อย ในแผงเดียวกัน

 

ปัญหาเลยเกิดขึ้นจากตรงนี้ เพราะการที่ขยายตัวไม่สม่ำเสมอ

มันจะทำให้แต่ละจุดของผนัง มีการยืด หด ที่ไม่เท่ากัน

และทำให้เกิดการแตกร้าว กระจายไปทั่ว

และไอ้การแตกร้าวนี้ แม้จะทำการแก้ไข

ด้วยการสกัดผิวฉาบออก ฉาบใหม่ทั้งหมด

แล้วลงทับด้วยสกิมโค้ทอย่างดีที่สุด

จากนั้นก็ใช้สียืดหยุ่น 7 แสนเท่าเข้ามาทาปิดรอย

สุดท้าย ผนังก็จะแตกอีกอยู่ดี

เพราะ ต้นเหตุของปัญหาไม่ได้ถูกแก้ไขไปด้วย

 

การแก้ไขต้นเหตุนี้ ทำได้อย่างเดียวคือ

พังแม่งทิ้งให้หมด แล้วก่อผนังใหม่ทั้งหมด ด้วยอิฐชนิดเดียวกัน

เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา การยืดหดที่ไม่เท่ากันของวัสดุก่อ

ดังนั้น จุดนี้จึงเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องทุบทิ้งทำใหม่หมด

และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ต้องรีจอยซ์ งานนี้ไป

 

น่าตลกคือ โครงการนี้ ออกแบบ ควบคุม

และ รับเหมาก่อสร้างโดยวิศวกร ( คนเดียวทั้งระบบ )

แต่ข้อแก้ตัวของวิศวกรคนนี้ ในการใช้อิฐผสมเป็นรวมมิตร คือ

การสั่งอิฐพันปี ต้องสั่งจำนวนมาก ไม่งั้นจะมีค่าส่ง

และ ไม่ได้คำนวณจำนวนที่ใช้ก่อนสั่ง

จึงทำให้ล๊อตสอง มีจำนวนไม่พอได้ส่งฟรี

ถ้าสั่งก็จะเสียเงินค่าขนส่งเยอะ ทำให้อาจจะขาดทุนกำไร

เลยสั่งเอาอิฐแถวนั้นมาใช้งาน ซึ่ง "ขอเจ้าบ้านแล้ว"

 

ถามหน่อยซิครับ คุณเจ้าบ้าน

ถ้าวิศวกร มาบอกว่า จะขอเปลี่ยนอิฐก่อ

ถ้าเค้าบอกว่า ราคาไม่ต่างกัน ความแข็งแรงมากกว่าเดิม

โครงสร้างก็รับน้ำหนักได้

คุณจะให้เค้าเปลี่ยนมั้ย ?

ถ้าคำตอบคือ ให้เปลี่ยน ผมแนะนำว่า

คุณต้องมีที่ปรึกษาการก่อสร้างแล้วแหละ

 

ตอนนี้วิศวกรคนดังกล่าว งอลและแกล้งบอกเลิกทำงานไปแล้ว

เพราะไม่พอใจคอนเซาท์

ซึ่ง คอนเซาท์ก็ต้องบอกว่า เรื่องของมึงแหละ

งานห่วยเกินอภัย เลิกทำอาชีพนี้ไปเลยได้ "ยิ่งดี"

เดี๋ยวเอาความห่วยของวิศวกรคนนี้มาให้ดูกันอีก

จะได้ระวังกันไว้ว่า วิศวกร ก็ไมใช่จะเชื่อใจได้ไปทุกคน

ยังไงก็ต้องระวังนะจ๊ะ

แฉอุทาหรณ์ วิศวกร ก่อผนังสุดชุ่ย ใครสร้างบ้านต้องรู้ ไม่งั้นทุบทิ้งหมด