- 05 ก.ค. 2565
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ เผยอาการโอมิครอน BA.5 พบ 5 อาการหลักชัดเจนมากกว่า BA.1 และ BA.2 ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ภายหลังจากประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการต่างๆ รวมถึงลดเงื่อนไขการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตามยังมีเรื่องที่ต้องเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดซึ่งก็คือ โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ว่าจะมีการระบาดรุนแรงอีกหรือไม่ เนื่องจากไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน BA.4 และ BA.5 หลายรายไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 65 ทางด้าน หมอธีระ หรือ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กให้ความรู้เรื่องสถานการณ์โควิด ถึงข้อสังเกตระลอก BA.5 จากเคสรอบตัวทุกวัน โดยระบุว่า
1. ส่วนใหญ่กว่า 90% ติดเชื้อและมีอาการ
2. แม้อาการส่วนใหญ่จะไม่ได้ทำให้ต้องนอนโรงพยาบาล แต่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ไข้ซม ปวดเมื่อยมาก ไอ เจ็บคอมาก ท้องเสีย เปรียบเทียบแล้วพบอาการมากกว่า Omicron BA.1 และ BA.2 อย่างชัดเจน
3. ผู้ติดเชื้อที่ปรึกษามาทั้งหมดนั้นตรวจ ATK เองทั้งสิ้น ไม่ได้ไปตรวจ RT-PCR
4. สถิติสัปดาห์ล่าสุด ในสถานที่ทำงานแห่งหนึ่ง มีเคสติดเชื้อใหม่เกิดขึ้นรายสัปดาห์พุ่งสูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 150% และการติดเชื้อใหม่นี้คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 1:20 ถือว่าหนักกว่าอังกฤษ (1:30) เวลส์ (1:30) ไอร์แลนด์เหนือ (1:25) และพอๆ กับสก๊อตแลนด์ (1:18)
หมอธีระ ยังระบุอีก เราต้องการกลไกการบริหารนโยบายสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน จำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมป้องกันโรค เพื่อลดอัตราการติดเชื้อให้น้อยลง ไม่ใช่ปล่อยจอย โดยรอดูแค่จำนวนนอนโรงพยาบาลและจำนวนเสียชีวิต เพราะการติดเชื้อแต่ละครั้งของทุกคนนั้น เดิมพันด้วยความเสี่ยงต่อปัญหาระยะยาวอย่าง Long COVID ซึ่งไม่มีใครมารับผิดชอบแทนผู้ป่วยได้ ส่วนตัวแล้วประเมินว่า เคสติดเชื้อใหม่ในแต่ละวัน ณ ขณะนี้ น่าจะสูงมากจริงๆ (อาจสูงราว 70,000-100,000 ต่อวัน) เพราะอัตราการตรวจเองสูงมาก และส่วนใหญ่ไม่เข้าระบบ และจำนวนติดเชื้อใหม่ครั้งนี้จะมากกว่าค่าเฉลี่ยของระลอกที่ผ่านมา หากไม่มีการควบคุมป้องกันโรคให้มีประสิทธิภาพกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ใส่หน้ากากกันนะครับ สำคัญมาก
ขอบคุณ FB : Thira Woratanarat
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline