- 11 ก.ค. 2565
เช็ก 11 อาการเด่น โอมิครอน BA.4 และ BA.5 แพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น 5 เท่า ติดซ้ำได้บ่อยแม้ฉีดวัคซีนหรือเคยติดโควิดมาแล้ว
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 หลังจากผ่อนคลายมาตรการให้มีการถอดแมสก์ ถอดหน้ากากอนามัยตามความสมัครใจแบบมีเงื่อนไข แต่ก็ยังมีเรื่องที่ต้องระวังเนื่องจากพบผู้ป่วยโควิดติดเชื้อโอมิครอน หรือ โอไมครอน (Omicron) สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ในประเทศไทยก่อนหน้านี้หลายราย นอกจากนี้ องค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 เป็นสายพันธุ์ย่อยที่ต้องเฝ้าระวัง (VOC) และคาดว่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของการแพร่ระบาดทั่วโลก
สาเหตุที่ต้องเฝ้าระวังโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 เนื่องจากพบการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง L452R ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับสายพันธุ์เดลตา เและยังมีความสามารถในการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนในเซลล์ปอดได้ดี อาจก่อให้เกิดอาการปอดอักเสบในผู้ติดเชื้อ แตกต่างจากสายพันธุ์ BA.1 และ BA.2 ที่เชื้อมีความสามารถในการแบ่งตัวได้ดีในเซลล์ของเยื่อบุระบบทางเดินหายใจส่วนบน นอกจากนี้ BA.4 และ BA.5 ยังมีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน ดื้อต่อแอนติบอดี้ของมนุษย์ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ แม้ว่าจะเคยติดเชื้อหรือฉีดวัคซีนมาแล้วก็ตาม
โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 BA.5 สามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้ดีในเซลล์ปอด อาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปอดอักเสบ แพร่ระบาดได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันเก่ง เคยติดเชื้อหรือฉีดวัคซีนแล้วก็ติดเชื้อซ้ำได้ (วัคซีนได้ผลน้อยลง)
จุดเด่นของโควิดโอมิครอน คือ การแพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น 5 เท่า โดยอาการของโควิดสายพันธุ์ BA.4/BA.5 ไม่แตกต่างอย่างชัดเจนจากสายพันธุ์โอมิครอน อาการที่เด่นชัดของสายพันธุ์นี้ ได้แก่ อ่อนเพลีย เหนื่อย, ไอแห้ง, เจ็บคอ, ไข้, มีน้ำมูก, ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย และ ถ่ายเหลว
นอกจากนี้ ยังพบอาการการสูญเสียการได้กลิ่นและการรับรส พบอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร กลุ่มอาการของระบบทางเดินหายใจ หายใจถี่ หายใจลำบาก และกลุ่มอาการนอกระบบที่ไปคล้ายกันกับสายพันธุ์เดลตาได้เช่นกัน
ขอบคุณ โรงพยาบาลศิครินทร์
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline