- 18 ก.ค. 2565
สายไหมต้องรอด พาเหยื่อถูกเอเจนซี่ชาวไทย หลอกลวงทำเรื่องไปทำงานเกาหลีใต้ร้องกองปราบฯ โดนตุ๋นเงินอ้างไปทำงานต่างประเทศตั้งแต่หลักหมื่นถึงแสน
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 18 ก.ค.65 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งกลุ่มสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน นำตัวแทนผู้เสียหายชาวไทยบางส่วน แจ้งความกับ พ.ต.ท.ธงชัย สุยะลังกา รอง ผกก.1 บก.ปคม.ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน,หลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังถูกนายหน้าเป็นหญิงชาวไทย ซึ่งมีสามีเป็นชาวเกาหลีใต้ หลอกไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยอ้างว่ามีค่าใช้จ่ายเป็นเงินรายละหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท แต่ท้ายสุด เหยื่อกลับไม่ได้ไปทำงานจริง
น.ส.เอ (นามสมมุติ) กล่าวว่า เห็นบริษัทดังกล่าว เป็นเอเจนซี่จัดหางานต่างประเทศ มีหญิงชาวไทยเป็นนายหน้า และสามีชาวเกาหลีใต้ กับชายไทยอีกรายหนึ่ง โฆษณาชักชวนไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ผ่านเฟซบุ๊ก อ้างว่าบินก่อนผ่อนทีหลังได้ แต่เป็นการไปทำงานอย่างไม่ถูกกฎหมาย โดยบริษัทอ้างว่าจะปลอมแปลงเอกสารให้ และอ้างว่าเคยส่งคนไทยไปทำงานแล้วกว่า 2,000 คน
พร้อมให้จ่ายเงินค่าประกันการบินไปก่อนประมาณ 7,500 บาท รวมๆ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดบางรายมีราคาตั้งแต่ 15,000 ถึงหลักแสนบาท แต่ตนมาทราบว่าถูกหลอกเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังไปทำเรื่องลงทะเบียน K-ETA ของ ตม.เกาหลี หรือ ระบบการขอเอกสารอนุมัติการเดินทางแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับชาวต่างชาติ ยังไม่ผ่าน แต่เมื่อติดต่อกับผู้ก่อเหตุไป ก็ถูกไล่บล็อก แต่ทราบว่า หญิงนายหน้าชาวไทยได้กลับมาทำเรื่องแต่งงานกับสามีเกาหลีใต้ และจะทำวีซ่าไปเกาหลี เบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียหายกว่า 50 ราย ถูกหลอกในพฤติกรรมเดียวกัน
“ยอมรับว่าสิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง แต่ตัวเองมีหนี้สินเป็นล้านบาท เหลือแค่แม่คนเดียว อีกทั้งงานในประเทศไทยได้เงินน้อย” น.ส.เอ กล่าวทั้งน้ำตา
นายเอกภพ กล่าวว่า เพจสายไหมต้องรอดได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีเหยื่อถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศทั้งโซนยุโรปและเอเชียแล้วหลายราย บางคดียังไม่คืบหน้า หลังแจ้งความแล้วจะประสานไปยังกระทรวงแรงงาน เพื่อให้ตรวจสอบบริษัทแห่งนี้ เนื่องจากเป็นการหลอกชาวไทยด้วยกันเอง
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้เสียหายพร้อมพิจารณาประกอบพยานหลักฐานก่อนรายงานผู้บังคับบัญชา สั่งการต่อไป
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainewsonline