มอบตัวแล้ว หนุ่มใหญ่ขับชนเด็กก่อนอุ้มมาทิ้งหน้ารพ. ยอมรับสารภาพสิ้น

ความคืบหน้าล่าสุดจากกรณีชายขับรถพุ่งชนเด็ก5ขวบสะโพกหักและนำตัวมาทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาลสุขสวัสดิ์อินเตอร์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม.ซึ่งมีกล้องวงจรปิดด้านหน้าโรงพยาบาลจับภาพขณะชายดังกล่าวอุ้มเด็กมาทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาลได้ก่อนจะหลบหนี โดยเหตุเกิดช่วง เวลา 15.00 น. วันที่ 9 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา

ต่อมา เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 19 ก.ค. 2565 ที่ สน.บุคคโล เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโลได้เชิญตัวนายอานนท์ นันตรา อายุ 52 ปี เดินทางมาพร้อมกับรถยนต์กระบะ ด้านท้ายรถเป็นตู้ทึบบรรทุกของ ซึ่งเป็นรถคันที่ก่อเหตุชนเด็กก่อนอุ้มมาทิ้งหน้าโรงพยาบาล เข้าพบพ.ต.ท.กิตติพนญ์ บุ่งทวย สว.(สอบสวน) สน.บุคคโล เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา "ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเมื่อประสบเหตุและไม่แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ทราบ"

สอบสวนนายอานนท์ (ผู้ก่อเหตุ) ให้การว่า จุดเกิดเหตุเป็นทางเลี้ยว ขณะตนกำลังขับไปร้านอาหารตามสั่ง อยู่หลังห้างบิ๊กซีดาวคะนอง เห็นว่าเด็กยืนกัน 2 คนซึ่งเมื่อขับผ่านมาถึง ตนไม่ทราบว่าขับรถชนเด็กไปแล้ว กระทั่งมีคนเคาะรถบอก ตนรู้สึกตกใจทำไรไม่ถูก จึงอุ้มเด็กขึ้นรถไป เมื่อถึงโรงพยาบาลสุขวัสดิ์ ตนก็พาไปส่งที่หน้าประตู แต่ที่ไม่พาเข้าไปเพราะกลัวเนื่องจากรถคันนี้ใช้ไม่ใช่ของตน เป็นรถของน้องสาวแฟน แต่ตนก็ยังคิดว่าอยู่ใกล้หมอแล้ว และจะรับผิดชอบทุกอย่าง ส่วนที่หลบหนีเพราะต้องรีบไปขายของและเกิดรู้สึกผิดจึงตัดสินใจเดินทางมามอบตัว

มอบตัวแล้ว หนุ่มใหญ่ขับชนเด็กก่อนอุ้มมาทิ้งหน้ารพ. ยอมรับสารภาพสิ้น

ผู้ก่อเหตุสารภาพว่า" .. ที่ทำไปเพราะตกใจจริงๆ และด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอสังคมให้อภัยตนด้วย ถ้าสังคมไม่ให้อภัยตน ตนก็ไม่ได้ทำงานต่อไป ตนก็จะไม่มีรายได้มาช่วยค่าใช้จ่ายน้อง แค่นี้ตนกับแฟนก็เดือดร้อนมาก แต่ตนก็ยอมรับผิด ตนผิดจริงๆ ตนขอโทษครับ ..." นายอานนท์ กล่าว

เบื้องต้นนายอานนท์ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาและเจ้าหน้าที่ได้ทำการเปรียบเทียบปรับและให้เจราจาไกล่เกลี่ยกับพ่อของเด็กผู้บาดเจ็บเพื่อชดใช้ค่าเสียหายดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ด้านตำรวจเผยว่า ถูกแจ้ง ดำเนินคดี รวม 2 ข้อหา คือ  ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และ เมื่อประสบเหตุไม่แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ทราบ  ทั้งนี้หากผลแพทย์ระบุในภายหลัง ว่ามีอาการได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องพักรักษาตัวนานก็จะพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง

จากการตรวจสอบประวัติ ไม่พบว่ามีประวัติเคยต้องโทษ และผลการตรวจวัดไม่มีแอลกอฮอล์ และไม่มีสารเสพติดในร่างกาย

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline