- 26 ก.ค. 2565
เปิดคำสารภาพ โจ๋วัย 15 จี้ชิงเงิน 100 จากนักเรียนราชวินิตบางเขน อ้างความคึกคะนองเป็นเหตุ หลังซดน้ำกระท่อมผสมกับยากล่อมประสาท
โจ๋วัย 15 เปิดคำสารภาพ เหตุจี้ชิงเงิน 100 จากนักเรียนราชวินิตบางเขน สืบเนื่องจาก จากกรณี 2 คนร้าย สวมใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ รองเท้าผ้าใบ เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาว ขี่รถจักรยานยนต์สีชมพู-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมาในซอย ก่อนลงจากรถใช้อาวุธมีดข่มขู่นักเรียน โรงเรียนราชวินิตบางเขน ก่อนได้เงินไปจำนวนหนึ่ง และขี่รถหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 22 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา
มอบตัวแล้วโจรจี้นักเรียนราชวินิตบางเขน ล่าสุด พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยถึงกรณีการซักถามผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 15 ปี ที่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์นักเรียนโรงเรียนราชวินิตบางเขน หลังจากที่ตำรวจได้สืบสวนจนพบแหล่งที่พักอาศัย ก่อนประสานให้ผู้ปกครองนำเข้ามามอบตัว เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุไป เนื่องจากอาการมึนเมาน้ำกระท่อมผสมกับยากล่อมประสาท จึงเกิดความคึกคนอง
โดยออกมาก่อเหตุร่วมกับเพื่อนอีกคนหนึ่งอายุ 17 ปีโดยขณะนี้ตำรวจกำลังประสานให้ผู้ต้องหาอีกคนเข้ามอบตัวภายในวันนี้ ส่วนผู้ต้องหากำลังเรียน กศน.ชั้นม.1 ในต่างจังหวัด แต่เข้ามาพักกับอาศัยกับญาติย่านประชานิเวศน์ 3 โดยมีการก่อเหตุในช่วงเช้าวันดังกล่าว 3 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกพื้นที่สน.ประชาชื่น ได้ไปพูดจาข่มขู่ขอเงินนักเรียนที่เดินผ่าน 3 คน แต่ผู้เสียหายไม่มีเงินสดให้จึงโอนให้ผ่านธนาคารไปที่บัญชีของพี่ชายผู้ต้องหาจำนวน 20 บาท โดยที่ไม่ได้ใช้อาวุธ โจรจี้นักเรียนราชวินิตบางเขน
จากนั้นได้มาก่อเหตุที่ย่านประชานิเวศน์ 3 เขตสภ.รัตนาธิเบศร์ โดยก่อเหตุกับคนรู้จักแถวบ้าน แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน ก่อนที่จะมาก่อเหตุที่หน้าโรงเรียนราชวินิตบางเขน ในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง ได้เงินไป 100 บาท จากนั้นช่วงเย็นวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายรายที่สองที่รู้จักกับผู้ต้องหา ได้ตามไปที่บ้านและทะเลาะวิวาทกันจากเหตุที่ไม่พอใจมาจี้ชิงทรัพย์ในช่วงเช้า
อย่างไรก็ตาม การสอบปากคำผู้ต้องหาต้องประสานให้สหวิชาชีพ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาร่วมสอบ ก่อนที่จะส่งตัวไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางภายในวันนี้ (26 ก.ค.65) ซึ่งเข้าข่ายความผิดร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด และจะตรวจสอบประวัติการก่อเหตุย้อนหลัง เบื้องต้นผู้ต้องหายังอ้างว่าเป็นการก่อเหตุเป็นครั้งแรก
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline