ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่ม ดร.อนันต์ แจงล่าสุด เข้าใจผิด ขออภัยในความสับสน

กระเเสข่าวไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่ม ดร.อนันต์ แจงล่าสุด ข้อมูลยังไม่มีตัวอย่างของผู้ป่วยรายที่ 2 ต้องขออภัยในความสับสน ตอนนี้พบเเค่รายเดียวในไทย คือชายไนจีเรีย

  ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่ม ดร.อนันต์ ชี้แจงล่าสุดเเล้ว ต้องขออภัยในความสับสน หลังจากที่สามารถจับกุมชายชาวไนจีเรีย ที่ติดฝีดาษลิง จาก จ.ภูเก็ต ประเทศไทย แล้วลักลอบหนีข้ามชายแดนช่องทางธรรมชาติออกไปฝั่งกัมพูชาได้แล้ว ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ได้นำรถพยาบาลมาควบคุมตัวไปสถานที่กักตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ ซึ่งไทยได้ประกาศเป็นบุคคลต้องห้ามเรียบร้อย

 

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่มแล้ว ดร.อนันต์ วิเคราะห์ละเอียด เคสนี้ เดาไม่ยากรับเชื้อมาจากไหน

ล่าสุดมีรายงานว่า ไทยพบผู้ป่วย ฝีดาษลิง รายที่ 2 ถอดรหัสที่จุฬาฯ ซึ่งด้าน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "ผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่สองของไทย?


ไวรัสฝีดาษลิงที่ตรวจพบในประเทศไทยตอนนี้ เป็นไวรัสที่อยู่ในกลุ่ม A.2 ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มที่แพร่กระจายเป็นวงกว้างในยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นกลุ่ม B.1 (สีเหลือง) ไวรัสใน 2 กลุ่มนี้มีความแตกต่างกันไม่มากในภาพรวม แต่มากพอที่จะแยกจากกันเป็นกลุ่มที่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นกำเนิดของไวรัสที่ระบาดในประชากรมนุษย์ 

 


เชื่อว่ามาจาก 2 แหล่งที่แตกต่างกัน และ เนื่องจาก A.1 ใกล้เคียงกับสายพันธุ์เก่ามากกว่า จึงทำให้เชื่อว่าไวรัสฝีดาษลิงอาจจะอยู่ในประชากรมนุษย์มาสักพักนึงแล้ว ก่อนที่จะมีการระบาดอย่างเห็นได้ชัดของกลุ่ม B.1 ในตอนนี้ สำหรับความแตกต่างของอาการของโรค หรือ ความรุนแรงระหว่าง A.2 กับ B.1 ยังไม่มีข้อมูลแบ่งแยกออกมาชัดเจน

 

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่มแล้ว ดร.อนันต์ วิเคราะห์ละเอียด เคสนี้ เดาไม่ยากรับเชื้อมาจากไหน

ถ้าดูจากข้อมูลของ A.2 ในฐานข้อมูล จะเห็นว่า A.2 ไม่ได้มีความแตกต่างระหว่างกลุ่มมากเท่ากับ B.1 อาจจะเป็นเพราะไวรัสในกลุ่ม A.2 ยังมีอยู่น้อยมากเมื่อเทียบกับไวรัสที่ระบาดหนักในตอนนี้
ข้อมูลนี้ชี้ว่าไวรัสในประเทศไทยพบแล้วในผู้ป่วย 2 ราย สายพันธุ์แรกคือจากชายชาวไนจีเรีย (Phuket-74) ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่2


และ อีกตัวอย่างหนึ่งมาจากผู้ป่วยอีกรายที่ถอดรหัสที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU-ID220016-FTV) โดยไวรัสสองตัวอย่างมีความใกล้เคียงกันมาก และมากกว่าสายพันธุ์ A.2 ที่ไปพบในอินเดีย และ สหรัฐอเมริกา เป็นไปได้สูงมากว่า ผู้ป่วยรายที่ 2 ได้รับเชื้อฝีดาษลิงมาจากชายชาวไนจีเรียรายแรก และ ยังไม่ใช่สายพันธุ์ B.1 ที่เป็นสายพันธุ์หลักของโลกตอนนี้

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่มแล้ว ดร.อนันต์ วิเคราะห์ละเอียด เคสนี้ เดาไม่ยากรับเชื้อมาจากไหน


ป.ล. เนื่องจาก A.2 มาก่อนหลายปี แต่มีผู้ป่วยน้อยกว่า B.1 มาก เลยแอบตั้งสมมติฐานว่า ไวรัส A.2 อาจจะมีคุณสมบัติการแพร่กระจายน้อยกว่า B.1 ซึ่งการที่ยังไม่พบ B.1 ในประเทศไทยอาจจะเป็นข่าวดีอยู่นิดๆครับ"

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่มแล้ว ดร.อนันต์ วิเคราะห์ละเอียด เคสนี้ เดาไม่ยากรับเชื้อมาจากไหน

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่ม ดร.อนันต์ แจงล่าสุด เข้าใจผิด ขออภัยในความสับสน

อัพเดทล่าสุด ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ชี้แจงว่า ฐานข้อมูล GISAID ระบุว่ามีการถอดรหัสตัวอย่างไวรัสฝีดาษลิง 2 ตัวอย่าง ซึ่งมีนักวิจัยต่างประเทศนำไปวิเคราะห์รหัสพันธุกรรมระบุว่าเป็นไวรัส 2 สายพันธุ์ที่ต่างกัน เนื่องจากมีความแตกต่างในตัวรหัสพันธุกรรมในบางตำแหน่ง ทำให้เข้าใจว่ามาจากตัวอย่างของผู้ป่วยคนละคนกัน แต่พอดูรายละเอียดของตัวอย่างที่ระบุไว้ พบว่า น่าจะมาจากผู้ป่วยรายเดียวกัน คือ ชายชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี โดยรหัสพันธุกรรมแรกตั้งชื่อไวรัสว่า hMpxV/Thailand/NIC_Phuket 74/2022 เป็นตัวอย่างที่มาจากการ swab คอ และ ตัวอย่างที่ 2 ตั้งชื่อไวรัสว่า hMpxV/Thailand/CU-ID220016-FTV/2022 เป็นตัวอย่างที่มาจากตุ่มแผล

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่ม ดร.อนันต์ แจงล่าสุด เข้าใจผิด ขออภัยในความสับสน

สรุปคือ ข้อมูลยังไม่มีตัวอย่างของผู้ป่วยรายที่ 2 ตามที่มีคนวิเคราะห์มานะครับ แต่เป็นการสับสนจากชื่อที่ใช้ไม่ตรงกัน...ต้องขออภัยในความสับสนดังกล่าวด้วยครับ

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่ม ดร.อนันต์ แจงล่าสุด เข้าใจผิด ขออภัยในความสับสน

ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเพิ่ม ดร.อนันต์ แจงล่าสุด เข้าใจผิด ขออภัยในความสับสน

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline