- 01 ส.ค. 2565
พ่อเศร้ารับร่างลูกสาว เหตุคานสะพานกลับรถหล่นทับ ก่อนลั่น ประโยคสุดเจ็บ พวกทำทางสะเพร่าจริงๆ ไม่คิดถึงชีวิตคนอื่นเลย มีตั้งหลายครั้งแล้วทำไมปล่อยให้เกิดขึ้นอีก
วันที่ 1 สิงหาคม 2565 เวลา 14.00 น. นายณรงค์ รักท้วม บิดา พร้อมด้วย น.ส.สมใจ เที่ยงตรง น้าสาว เดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อติดต่อขอรับศพน.ส.สุวรรณี รักท้วม ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุคานสะพานลอยกลับรถถนนพระราม 2 หล่นทับรถยนต์ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
พ่อเศร้ารับร่างลูกสาว เหตุคานสะพานกลับรถหล่นทับ ก่อนลั่น ประโยคสุดเจ็บ
นายณรงค์ กล่าวว่า ทราบข่าวจากแฟนลูกสาวโทรมาบอก ตอนแรกผมคิดว่ารถชนแท่งแบริเออร์คิดว่าคงไม่เป็นอะไร จึงรีบนั่งรถออกไปเมื่อไปเห็นพบว่าไม่ใช่อย่างนั้น ตอนไปรถติดมากกว่าจะไปถึงที่เกิดเหตุติดตั้งแต่แยกบ้านแพ้ว ต้องขอขอบคุณคนขับรถจักรยานยนต์คันหนึ่งที่ผมขอเขานั่งไปที่จุดเกิดเหตุได้พาผมไปดูลูกสาว ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุได้พูดคุยกับลูกสาวผ่านโทรศัพท์เพียง 2-3 นาที โดยลูกถามว่าพ่อจะกินอะไร เดี๋ยวจะซื้อเอากับข้าวไปให้ ผมจึงบอกว่าไม่ต้องเพราะทำกับข้าวแล้ว ไม่ต้องซื้อมากับข้าวมีแล้ว หลังวางสายไม่เกิน 5 นาที แฟนลูกสาวก็โทรมาแจ้ง ก่อนหน้านี้ลูกสาวได้ไปส่งน.ส.สมใจ ซึ่งเป็นน้าสาวที่เคหะท่าจีน
"ดีแล้วที่แฟนผมไม่ไปด้วย ตอนแรกผมจะให้นั่งไปเป็นเพื่อน ถ้าเขาไปหลานก็ต้องไปก็ต้องนั่งข้างๆ ถ้าไปก็ตายหมดเลย พวกทำทางสะเพร่าจริงๆ ไม่คิดถึงชีวิตคนอื่นเลย มีตั้งหลายครั้งแล้วทำไมปล่อยให้เกิดขึ้นอีก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำใจยาก ผมมีลูกแค่ 2 คน แล้วเกิดเหตุกับลูกสาวคนเล็กสุด" นายณรงค์ กล่าว
น.ส.สมใจ เล่าว่า ปกติวันอาทิตย์หลานก็จะไปส่งเป็นประจำ เมื่อส่งตนที่เคหะท่าจีนเสร็จแล้วก็ยูเทิร์นเพื่อจะกลับบ้าน โชคดีที่หลานมาส่งตนแล้วไม่งั้นก็อาจจะ 2 ศพ ทั้งนี้มีกรมทางหลวงโทรมาขอร่วมงานเป็นเจ้าภาพ และทางปลัดได้โทรมาสอบถามหากมีอะไรให้ช่วยเหลือก็โทรไปพูดคุยได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มาคุยกับพ่อแม่ว่าดำเนินการถึงไหนอย่างไรบ้าง เพราะทางครอบครัวยังยุ่งกับการจัดการเรื่องรับศพ โดยจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดไทร ซอยเอกชัย 23 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ เป็นเวลา 5 วัน
น.ส.สมใจ กล่าวว่า อยากเรียกร้องไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการซ่อมแซมต่างๆ ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพราะการสูญเสียชีวิตคนไม่สามารถที่จะเอากลับมาได้ อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์สุดท้ายที่จะเกิดขึ้น เพราะการสูญเสียหากเกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณ คุณถึงจะรู้สึกว่ามันเป็นอย่างไร ขอฝากเรื่องความปลอดภัยไว้ด้วยไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามให้คิดถึงคนอื่นด้วย อย่าคิดถึงแต่ส่วนงานของคุณเอง
ด้าน น.ส.เพ็ญ ภูผานา ภรรยาของนายชาญ ชาวทอง คนงานที่เสียชีวิตได้เดินทางมารับศพพร้อมเล่าเหตุการณ์สั้นๆ ว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่ในที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงหล่นตู้ม และรู้ว่าเป็นแฟนเรา เพราะตอนนั้นกำลังจะเริ่มทำงานซ่อมแซมสะพานกลับรถ โดยขณะนั้นนายชาญกำลังจะเดินไปหาลูกน้อง โดยตนเห็นเขาเดินผ่านไปแต่เราไม่รู้เพราะเรานั่งหันหลัง ซึ่งจุดดังกล่าวมีกำหนดซ่อม 3 เดือน แต่ยังซ่อมไม่ถึง 3 เดือนก็เกิดเหตุขึ้น ตนไม่รู้ว่าตอนที่นั่งอยู่บริเวณไหน เรานั่งหันอยู่เห็นเขาเดินผ่านไป ได้ยินเสียงก็รู้ว่าเป็นแฟนเรา ทั้งนี้มีหัวหน้างาน 2 คน ซึ่งแฟนตนเป็นหัวหน้าหน่วย หลังจากนี้จะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านกุ่ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เป็นเวลา 3 วัน
สำหรับผลชันสูตรเบื้องต้นนายชาญเสียชีวิตจากกระดูซี่โครงหัก ปอดช้ำฉีกขาด ตับม้ามแตก จากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก ส่วนน.ส.สุวรรณี เกิดจากการขาดอากาศจากการกดทับบริเวณทรวงอก
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline