- 02 ก.ย. 2567
หนุ่มผู้ช่วยพยาบาล แต่งงานจดทะเบียนกับเมียมา 6 ปี สุดทนจับชู้ได้ไปแล้ว 5 คน พูดให้หยุดพฤติกรรมยังไงก็ไม่ฟัง
หนุ่มผู้ช่วยพยาบาล ทนไม่ได้อีกต่อไป จนต้องมาร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังถูกชายชู้คนที่ 5 ของภรรยา ข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย แถมภรรยาก็ขอหย่าทั้งที่ตอนนี้มีลูกสาวอายุ 3 ขวบด้วยกัน 1 คน
โดยผู้เสียหายบอกว่า ตนเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ส่วนภรรยาก็เป็นผู้ช่วยพยาบาลทำงานอยู่ที่เดียวกัน ซึ่งตนกับภรรยาได้คบหาอยู่กินกันแบบสามีภรรยาตั้งแต่ปี 2560 จดทะเบียนสมรสปี 2562 และแต่งงานในปี 2563
ทว่าเพิ่งมาทราบว่า ภรรยาเริ่มคบชู้คนแรก คือช่วงปลายปี 2562 ชายคนนี้เป็นคนที่เคยรู้จักกับตนและภรรยา ซึ่งคบกันประมาณเกือบ 1 ปี แต่สุดท้ายก็เลิกกันเพราะตนจับได้ กระทั่งช่วงปี 2563 ภรรยาก็ตั้งครรภ์ลูกสาวและคลอดลูกออกมา โดยหลังจากที่ภรรยาคลอดลูกแล้วก็ไปคบชู้กับชายคนที่สอง แต่ตนก็จับได้และเลิกลากันไป
จนปี 2564 ภรรยาของตนก็ย้ายไปทำงานที่โรงพยาบาลอีกแห่งย่านถนนแจ้งวัฒนะ และก็ไปคบชู้กับชายคนที่ 3 ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกันกับภรรยา โดยเริ่มคบกันในช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งตนรู้เพราะภรรยาของชายชู้คนที่สาม ส่งรูปและคลิปของชายชู้ที่กอดและจูบภรรยา และภาพถุงยางอนามัยส่งมาให้ตน
จากนั้นตนจึงบุกไปที่โรงพยาบาลและจะขอเคลียร์กับชายชู้คนนี้ แต่ฝ่ายชายชู้ไม่ยอมออกมาเจอ จนเรื่องไปถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาล และมีคำสั่งไล่ชายชู้คนนี้ออก ซึ่งหลังเกิดเรื่องตนเครียดมากถึงขนาดคิดสั้น แต่พ่อและแม่ของภรรยามาช่วยกันห้ามไว้ ตนจึงคุยกับภรรยาว่าจะขอดูแลลูกสาวเอง โดยจะยังไม่หย่าเพราะไม่อยากให้ลูกมีปัญหาครอบครัว
แต่เมื่อเดือนธันวาคมปี 65 ภรรยาของตนได้ส่งทนาย ความมาคุยกับตน บอกว่าภรรยาของตนต้องการจะฟ้องหย่า ให้เหตุผลว่าตนไม่ดูแลครอบครัว และอ้างว่าตนล่วงละเมิดลูกสาวตัวเอง ตอนที่ตนอาบน้ำให้ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งตอนนั้นตนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของภรรยาของตนกับทนายความคนนี้ เพราะรู้สึกว่าทั้งคู่แปลกๆ
จนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 67 พ่อและแม่ของภรรยาบอกตนว่า ภรรยาของตนเอาทนายความคนนี้มานอนที่บ้าน และหลักฐานสำคัญที่สุดที่ทำให้ตนมั่นใจว่าทนายความคนนี้กับภรรยาของตนเป็นชู้กัน คือ ภรรยาของตนไปเที่ยวเมืองจีนกับทนายความคนนี้และลงรูปในโลกโซเชียลอย่างเปิดเผย
ต่อมาภรรยาของตนก็เอาลูกไปอยู่กับทนายความคนนี้ และกีดกันไม่ให้ตนไปยุ่ง ที่สำคัญทนายความคนนี้มีการแอบอ้างว่ารู้จักคนใหญ่คนโต ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และรู้จักกับตำรวจระดับผู้กำกับในกรุงเทพ แต่สิ่งที่ทำให้ตนช็อกที่สุดคือ ก่อนหน้านี้ภรรยาของตนถูกทนายความคนนี้ทำร้ายร่างกาย เพราะจับได้ว่าภรรยาของตนแอบคบซ้อนหมอที่โรงพยาบาล (เท่ากับว่าคบหมอเป็นคนที่ 4 และ คบทนายเป็นคนที่ 5)
ตอนนี้ตนยืนยันว่าต้องการจะหย่ากับภรรยา และต้องการเอาลูกสาวมาอยู่ในความดูแลของตน เพราะตนไม่ไว้ใจว่าชายชู้ จะทำร้ายร่างกายลูกสาวตนหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ ชายชู้คนนี้ทะเลาะกับภรรยาของตน และทำร้ายร่างกายภรรยาและตีลูกสาวของตนด้วย
และที่สำคัญตอนนี้ภรรยาของตนก็ตั้งท้องกับทนายความคนนี้ได้ 2 เดือน และทนายความคนนี้ก็มีลูกชายอยู่แล้ว ตนไม่อยากให้ลูกสาวของตนต้องเติบโตมาในสภาพครอบครัว หรือต้องมาเจอปัญหาเรื่องแบบนี้ แต่ภรรยาไม่ยอมและต้องการเอาลูกสาวไปอยู่กับชายชู้
อย่างไรก็ตาม ด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่าหลังจากนี้จะประสานกับทางผู้ใหญ่ ให้เข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายต่อไป