หนุ่มคลั่งรักตามจีบสาวไม่เล่นด้วย เปลี่ยนเป็นแรงแค้น ตามทุบรถ ขู่เอาชีวิต

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3 โพสต์ข้อความ กรณีหนุ่มคลั่งรักฉุน จีบสาวไม่ติด ตามทุบรถขู่เอาชีวิต ว่า "ขอให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบตามจับตัวโดยเร็วอันตรายต่อน้องผู้หญิงมากก จีบไม่ติดฉุนทุบรถ ขู่ฆ่า เหตุเกิดรัชดาซอย 3 หน้าร้านสเต็ก.... เวลา 03:40  วันที่ 30 ก.ค. มีกล้อง 10 จุดรู้ที่อยู่  รู้ชื่อนามสกุลแต่ยังจับตัวไม่ได้ค่ะ ช่วยหน่อยนะคะ  ดูข้อมูลทุกอย่างแล้วแต่ทำไมยังจับตัวคนร้ายไม่ได้เลย โดนขู่ฆ่าด้วยกลัวมากค่ะ"  
 

ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่สน.ห้วยขวาง นายประพาส ดวงสี 48 ปี เจ้าของแท็กซี่ที่ปรากฎในภาพวงจรปิด หลังพบว่าเป็นรถที่คนร้ายขับไปก่อเหตุใช้ก้อนหินทุบรถ ของน.ส.สิริวัลล์ เสาวดี อายุ 32 ปี เจ้าของร้านฮันเตอร์ รัชดา ซอย 3 แยก 1 จนได้รับความเสียหาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสน.ห้วยขวางเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุ 

หนุ่มคลั่งรักตามจีบสาวไม่เล่นด้วย เปลี่ยนเป็นแรงแค้น ตามทุบรถ ขู่เอาชีวิต น.ส.สิริวัลล์ ผู้เสียหายกล่าวว่า ตนทำธุรกิจเปิดร้านอาหารและร้านเสริมสวย เมื่อ 6 เดือนก่อน ตนได้รู้จักกับนายฟ่ง (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้านเป็นประจำ ก็พูดคุย ทักทายลูกค้าตามปกติ แต่หลังเดือนที่ 5 นายฟ่ง ได้วานให้ตนโอนเงินค่าไฟให้หน่อยแล้วเขาจะให้เงินสดตน เนื่องจากโทรศัพท์เขามีปัญหา เราก็โอนให้ แล้ว นายฟ่งก็ขอแลกไลน์อ้างว่าจะให้ส่งสลิปการโอนเงินให้  ตนจึงให้ไลน์ ส่งสลิปไปให้ เพื่อความบริสุทธิ์ใจว่าเราโอนเงินค่าไฟให้แล้ว หลังจากนั้น นายฟ่ง ก็ส่งข้อความมาหาเรื่อย ๆ ลักษณะเชิงชู้สาว ชวนไปกินข้าว ซึ่งตนก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้ชอบและตอบกลับไปเป็นมารยาทเท่านั้น ทุกครั้งที่เขาชวนไปไหนมาไหน เราไม่เคยไปด้วยเลย 

จนกระทั่งวันที่คุณแม่เข้าโรงพยาบาล ตนเครียดเรื่องแม่ แต่เขาก็ทักและและโทรมาหา แต่ตนไม่ทราบว่าเขาเอาเบอร์ไปได้ยังไง ตนไม่รับสายตามปกติ เขาก็บอกตนว่า ไม่พอใจที่เราถอยห่าง ไม่ยอมคุยด้วย จากนั้นก็ส่งข้อความมาหาต่อว่าตนว่าตนอยู่กับผู้ชายคนอื่น เป็นโสเภณี และต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคายอีกหลายอย่าง จากนั้น นางฟ่งก็ส่งข้อความมาด่าทุกวันเกือบ 1 เดือน 

ต่อมาวันที่ 24 ก.ค. 2565 นายฟ่งได้ไปแจ้งความว่าตนไปต่อว่าเขา ซึ่งตำรวจได้โทรมาสอบถามเรื่องราวจากตน ก็ทราบว่าตำรวจไม่รับเรื่อง และวันต่อมา นายฟ่งก็เริ่มส่งข้อความมาข่มขู่ตน บอกว่าจะฆ่าตนก็เห็นข้อความแต่ไม่ได้สนใจหรือตอบกลับไป เพราะมองว่า เขาน่าจะมีปัญหาทางจิต จนกระทั่งวันที่ 30 ก.ค. ช่วงเวลา 4.00 น. ตนตื่นมาเจอรถของตัวเองถูกอิฐบล็อคปาเข้าที่กระจก ทำให้ได้รับความเสียหายที่กระจกหน้า กระจกข้าง และรอยบุบมากมายตามรถ ตอนแรกคิดว่าเป็นคนเมาแถวนี้ จึงไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ จากนั้น ตำรวจจึงสอบถามว่าตนไปมีเรื่องกับใครมาก่อนหรือไม่ ทำให้ตนเอะใจ ไปดูกล้องวงจรปิดรอบ ๆ ร้าน ปรากฎว่า เห็นนายฟ่ง เดินลงจากรถพร้อมกับก้อนอิฐบล็อคขนาดใหญ่ จากนั้นก็เป็นฝ่ายก่อเหตุทั้งหมด 

น.ส.สิริวัลล์ กล่าวต่อว่า ตนไปสอบถามกับคนขับรถแท็กซี่คันที่นายฟ่งเดินลงมา ทราบว่า นายฟ่งได้ไปเช่าแท็กซี่คันนี้เพื่อมาก่อเหตุโดยเฉพาะ ด้านคนขับรถไม่รู้เรื่องเลย นอกจากนี้ ตนยังได้ติดต่อไปยังน้องชายของ นายฟ่องและส่งคลิปกล้องวงจรปิดให้ดู ถามว่าใช่พี่ชายของเขาหรือไม่ น้องชายก็ยืนยันว่าใช่ ตำรวจจึงได้ออกหมายเรียกให้นายฟ่ง มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว 

" ช่วงระหว่างที่รอเขาไปพบตำรวจ ยอมรับว่ากลัวมาก ถึงแม้ว่าหลังจากเกิดเหตุ นายฟ่งจะไม่ได้ติดต่อมาแล้ว แต่เรากลัวว่าเขาจะทำตามที่เคยขู่เอาไว้ว่าจะฆ่า ทำให้เราไม่กล้าเดินออกมาจากร้านเลย รู้สึกผวาไปหมด แต่ก็ต้องสู้เพื่อตัวเอง ที่ผ่านมา เราไม่เคยพูดจาให้ความหวังเขาเลย พยายามปฏิเสธชัดเจนมาตลอด แต่เมื่อมาเจอแบบนี้ เราก็ต้องปกป้องตัวเอง " น.ส.สิริวัลล์ กล่าว 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายฟ่ง พูดจาดีมาโดยตลอด พยายามพูดอวดโอ้ว่าตัวเองทำงานบริษัทใหญ่โต ทำไมถึงไม่สนใจเขา ซึ่งตนปฏิเสธมาตลอด จึงคาดว่าทำให้นายฟ่งไม่พอใจ ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ด้านนายประพาส เล่าว่า ตนเพิ่มเช่าซื้อรถคันนี้มาได้ไม่ถึงปี มีนายฟ่ง เดินมาขอเช่ารถเพราะตอนนี้ตกงาน อยากหารายได้โดยมาขอเช่ารถระหว่างรอสอบใบขับขี่ และถ้าได้ใบขับขี่มาก็จะได้ไปหาอู่ขับ ซึ่งตนเห็นว่าแต่งตัวดูดี และพูดจานอบน้อม ก็เลยสงสารให้ขับช่วงกะกลางคืน เพิ่งขับได้ 2-3 วัน และไม่ทราบว่าเขาเอารถไปทำอะไรมาจะมีผู้เสียหายติดต่อมาว่ารถเราไปก่อเหตุ วันนี้จึงมาแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่งนเกี่ยวข้องกับการไปก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้ตนก็ลำบากเพราะรถที่เช่าซื้อมาก็โดนบริษัทยกเลิกสัญญาและยึดรถกลับไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เขาทำกลับทำให้เราไม่มีรายได้ไปด้วย

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline