- 11 ส.ค. 2565
โฆษก บช.น. ประกาศ พ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ 5 ก.ย.นี้ ผู้โดยสารนั่งเบาะหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกคน ยกเว้นรถประเภทใดบ้าง เช็กรายละเอียด
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 65 พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานจราจร ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า เปิดเผยกรณีราชกิจจานุเบกษาประกาศ พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับที่ 13 ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 5 กันยายน 2565 นี้เรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัย ว่าจากเดิมกฎหมายฉบับนี้บังคับเฉพาะรถยนต์ 7 ที่นั่งที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารแถวหน้าที่ต้องรัดเข็มขัดนิรภัย แต่ฉบับใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 5 กันยายนนี้ บังคับให้ผู้โดยสารทั้งแถวตอนหน้า (ผู้ขับขี่) แถวตอนหลัง (ผู้โดยสาร) ทุกที่นั่งต้องรัดเข็มขัดนิรภัยด้วย ผู้ฝ่าฝืนต้องระวังโทษปรับ 2,000 บาท
ส่วนกรณีรถนั่งส่วนบุคคลที่เป็นรถเก่าไม่มีเข็มขัดนิรภัยมีการจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2531 กรมการขนส่งทางบกได้ประกาศให้ผู้ขับขี่ไปติดตั้งเข็มขัดนิรภัยในรถแล้ว หากเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีการจดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2531 เป็นรถเก่าที่ไม่มีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยจะได้รับการยกเว้น เช่นเดียวกับรถปิ๊กอัพที่มีการจดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2537 จะไม่มีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยในรถ หากไม่คาดเข็มขัดนิรภัยก็ถือว่าไม่มีความผิด
โดยตำรวจจะเน้นการบังคับใช้กฎหมายมีการตรวจรายละเอียดปีการจดทะเบียนของรถเป็นสำคัญ และการบังคับใช้กฎหมายตรวจจับในช่วงแรก เจ้าหน้าที่ศาลเน้นการว่ากล่าวตักเตือนประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทราบ ถึงการบังคับใช้กฎหมายก่อนจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
ส่วนกรณี คาร์ซีท หรือ ที่นั่งสำหรับเด็กในรถ ที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายวันที่ 5 กันยายนนี้เช่นกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องทำประกาศกำหนดลักษณะของคาร์ซีท องค์ประกอบ 3 ประเด็นหลัก คือ เป็นที่นั่งสำหรับเด็ก ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก และที่นั่งเพื่อความไม่ให้เกิดอันตรายสำหรับเด็ก ซึ่งรายเอียดของรูปแบบของลักษณะแต่ละประเภทนั้นต้องรอทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้กำหนดรายละเอียดทั้งหมด และกำลังอยู่ระหว่างการยกร่างออกประกาศ ถ้าทันภายในวันที่ 5 กันยายนนี้ จะบังคับใช้ได้ทันที แต่หากไม่ทันยืดหยุ่นได้ภายใน 90 วัน และจะประกาศบังคับใช้ได้ทันที
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainews