- 11 ส.ค. 2565
"ลวงพ่อเล็ก" เผย อาการอาพาธของ "ครูบาบุญชุ่ม" มั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากอาการมาลาเรียขึ้นสมองแน่นอน ....
จากกกรณีมีรายงานอาการอาพาธของ ครูบาบุญชุ่ม ภายหลังมีอาการแปลกๆ ทางลูกศิษย์และแพทย์ได้สันนิษฐานว่า เกิดจากครูบาบุญชุ่มปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำมานานกว่า 3 ปี แล้วออกมาจากปฏิบัติธรรมก็ได้รับกิจนิมนต์อย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ไม่ได้พักผ่อนร่างกายอ่อนแอ กระทั่งเริ่มมีอาการแปลกๆ เกี่ยวกับอาการทางสมอง จนหวั่นเกรงว่าจะเป็นมาลาเรียขึ้นสมอง จึงจำเป็นต้องรีบนิมนต์มารักษาอาการอาพาธที่ฝั่งไทย เบื้องต้นแพทย์ฝั่งไทยในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ทำการเจาะไขสันหลังมาเพาะเชื้อตรวจ ปรากฏว่าไม่พบเชื้อมาลาเรียอย่างที่เป็นกังวลแต่อย่างใด
ล่าสุดพระครูวิลาศกาญจนธรรม หรือ หลวงพ่อเล็ก เจ้าอาวาส วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี ได้กล่าวผ่านรายการยูทูป เสียงธรรมจาก วัดท่าขนุน ในประด็นนี้ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ว่า “ส่วนเรื่อง "ดราม่า" ในวงการสงฆ์ระยะนี้ ท่านทั้งหลายบางคนก็อาจจะได้ข่าวแล้ว ก็คือเรื่องที่ ครูบาบุญชุ่ม ออกจากกรรมฐาน 3 ปี 3 เดือน 3 วัน แล้วมีอาการแปลก ๆ ไม่ค่อยจะปกติ
ตรงนี้อาตมภาพมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า เกิดจากอาการมาลาเรียขึ้นสมองของ ครูบาบุญชุ่ม กำเริบ เหตุที่มั่นใจขนาดนั้นก็เพราะว่า เชื้อมาลาเรียตัวที่ครูบาบุญชุ่ม ได้รับกับตัวที่อาตมภาพได้รับก็คือตัวเดียวกัน ก็แปลว่าเป็นเชื้อดื้อยาเหมือนกัน ถ้าหากว่าพักผ่อนไม่พอเมื่อไรก็อาละวาดเมื่อนั้น แล้วจะทั้งขึ้นสมองและลงกระเพาะสลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป
หลวงพ่อเล็ก ได้กล่าวต่อไปว่า สมัยที่ท่านเป็นใหม่ ๆ อาตมภาพก็เคยบุกไปหาที่โรงพยาบาลเพื่อนำยาไปถวาย ครูบาบุญชุ่ม ต้องฝ่าด่านลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก เพราะเขากลัวว่าอาตมภาพจะไปรบกวนครูบาอาจารย์ของเขา คราวนี้ในเมื่อท่านเป็นมาลาเรีย อาการที่แสดงออกก็คือขาดสติเพราะเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าพระภิกษุสามเณรของเราศึกษาในอนาปัตติวาร คือการที่พระภิกษุละเมิดศีลเพราะอาการเจ็บไข้ได้ป่วย
เพราะอาการเพ้อคลั่งด้วยเป็นบ้า พระพุทธเจ้าท่านยกให้ว่าไม่ต้องอาบัติ อย่าว่าแต่อาการที่ ครูบาบุญชุ่ม แสดงออก ไม่ได้หนักหนาถึงขนาดละเมิดศีล แต่เป็นการแสดงท่าแปลก ๆ ที่คนไม่เคยเห็นเท่านั้น รวมทั้งการวิ่งลงจากธรรมาสน์ไปไหว้สามเณรน้อยด้วย
หลวงพ่อเล็ก กล่าวอีกว่า ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่บรรดาญาติโยมทั้งหลายจะมากังวล เพราะว่าในส่วนของการละเมิดศีล ครูบาบุญชุ่ม ก็ยังไม่ได้ละเมิด อาการที่แสดงออกก็เกิดจากการเจ็บไข้ได้ป่วยพาไป เพราะว่ามาลาเรียขึ้นสมองนี่ ถ้าไม่ได้ตั้งหลักเข้าสมาธิเตรียมตัวไว้ก่อน ก็เสร็จทุกราย
อาตมภาพเองเคยโดนมาหนัก ๆ อุณหภูมิร่างกายขึ้นไปถึง 42 องศาเซลเซียส ไปหาหมอที่เวชศาสตร์เขตร้อน ไปถึงตอน 2 ทุ่มกว่า เจอพยาบาล 2 คนเข้าเวรอยู่ กำลังดูละครหลังข่าวอย่างมีความสุขมาก เจอคุณมงคล หรือที่พวกคุณเรียกว่า "น้าแดง" ไปด้วย ก็ไปถามคุณมงคลว่า "เป็นอะไร ?" คุณมงคลก็บอกว่า "ที่เป็นน่ะหลวงพี่ครับ ไม่ใช่ผม" พยาบาลเห็นอาตมภาพเดินได้ปกติอยู่ ก็เลยส่งเทอร์โมมิเตอร์ให้อมเพื่อวัดไข้ แล้วก็ดูหนังกันต่อไป เพลิดเพลินเจริญใจเสียไม่มี
หลวงพ่อเล็ก ยังเล่าต่อว่า เวลาผ่านไปน่าจะเกิน 15 นาที ค่อยนึกได้ว่ามีพระป่วยนั่งหน้าจ๋อยอยู่ ก็เลยหยิบเอาเทอร์โมมิเตอร์ไปดู แล้วก็ทำตาโต "42 องศาฯ..! แล้วท่านเดินมาได้อย่างไร ?" "ก็เดินมาอย่างที่เห็นนี่แหละ ถ้าหากว่าโยมดูหนังนานอีกหน่อย อาตมาก็คงดูด้วยจนจบนั่นแหละ..!"
พวกเขารีบยัดพาราฯ ลดไข้แก้ปวดให้ 2 เม็ด แล้วก็เจาะเลือดไปตรวจ คราวนี้หมอวิ่งมากันหมดเลย บอกว่าให้แอดมิทเดี๋ยวนี้ อาตมาบอกกับหมอว่า "ไม่ได้ พรุ่งนี้ยังมีงานสำคัญรออยู่ ขอแค่ยาเท่านั้น" หมอบอกว่า "เชื้อสองล้านห้า ขนาดนี้เมื่อวานนี้เพิ่งจะตายไป 1 ศพ..!" ก็เลยบอกกับหมอไปว่า "อาตมาเป็นแบบนี้มาเป็น 10 ปีแล้ว ถ้าจะตายก็ตายไปแล้วล่ะ ในเมื่อยังไม่ตายก็ขอทำงานก่อน เพราะฉะนั้น..จัดยามาก็แล้วกัน"
ในเรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าหากว่าเราไม่ได้เข้าสมาธิรอไว้ก่อน จะเข้าไม่ได้เลยนะ พอร่างกายแย่นี่ เรื่องสมาธิสมาบัติไม่เอาด้วยเลย แต่บังเอิญว่า อาตมภาพเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมปล่อยให้สมาธิหลุด ก็เลยยังพอไปได้
หลวงพ่อเล็ก กล่าวว่า เรื่องพวกนี้ ถ้าหากว่าเราตั้งท่ารับอยู่ก็พอที่จะรับไหว แต่ถ้าหากว่าเผลอปล่อยหลุด ก็จะออกอาการแบบ ครูบาบุญชุ่ม ก็คือถึงเวลาใจเราคิดอย่างหนึ่ง แต่ปากอาจจะพูดไปอย่างหนึ่ง หรือว่าใจเราอยากจะทำแบบนี้ แต่ถึงเวลาแล้วร่างกายกลับไปทำอีกอย่างหนึ่ง เพราะว่าสมองรวนหมดแล้วจึงไม่ใช่เรื่องที่บรรดาลูกศิษย์จะต้องกังวลว่าครูบาอาจารย์ตัวเองเป็นอย่างไร ? แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปเสื่อมศรัทธาว่า ทำไมครูบาอาจารย์ของเราทำไมถึงเป็นแบบนี้ ? เพราะว่าอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นได้ทุกคน บรรดาพระนักปฏิบัติ เวลาที่อาการกำเริบ อาการจะหนักกว่าคนทั่วไปอีก เพราะว่าสภาพจิตละเอียด สามารถรับอาการไข้ได้ทั้งหมด เพียงแต่ท่านจะแสดงออกหรือไม่เท่านั้น
อาตมภาพเห็นคนจำนวนมากกังวลเรื่องนี้ จึงนำมาบอกกล่าวเอาไว้ว่า ใครไม่เคยเป็นมาลาเรีย จะไม่รู้หรอกว่ารสชาติชีวิตเป็นอย่างไร กระดูกกี่ข้อมีอยู่ตรงไหนก็รู้หมด ท่านสามารถขึ้นไปเทศน์ให้โยมเป็นหมื่นฟังได้ก็นับว่าเก่งมากแล้ว
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline