- 13 ส.ค. 2565
คนละครึ่งเฟส 5 ผู้ใช้รายเก่ากดยืนยันสิทธิ-ผู้ใช้รายใหม่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ต้องเริ่มใช้จ่ายภายในวันไหน
จากกรณีที่ ครม. มีมติเห็นชอบโครงการคนละครึ่งเฟส 5 หรือ โครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 วงเงิน 21,200 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพให้ประชาชน และกระตุ้นรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย โดยกำหนดเกณฑ์การให้เงินช่วยเหลือไม่เกินคนละ 800 บาท ซึ่งมีเงื่อนไขใช้จ่ายได้ไม่เกินวันละ 150 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ สามารถเริ่มใช้ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน-31 ตุลาคม 2565 อย่างไรก็ตามก่อนลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 5 หรือ กดยืนยันสิทธิคนละครึ่งเฟส 5 เช็กเงื่อนไขดังนี้ ก่อนที่จะเสียสิทธิ 800 บาท
กรณีประชาชนผู้ที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4
ต้องยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ได้ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565 และจะต้องใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ในการซื้อสินค้าหรือบริการภายใต้โครงการคนละครึ่งครั้งแรกผ่านแอปฯเป๋าตัง ภายในวันที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5
วิธียืนยันสิทธิคนละครึ่งเฟส 5
- เข้า แอปเป๋าตัง
- กด G-Wallet
- กดแถบคนละครึ่ง
- กดยอมรับเงื่อนไข และรับสิทธิ
- แสดงผลการรับสิทธิสำเร็จ
กรณีผู้ที่ไม่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง
- กรณีเป็นประชาชนที่เคยได้รับสิทธิมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีการใช้จ่ายผ่านแอปฯเป๋าตัง สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ผ่านแอปฯเป๋าตัง หรือผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565
- หากไม่เคยใช้สิทธิใดๆสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565
- ประชาชนที่ได้รับการยืนยันสิทธิจากการลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 เป็นต้นไป จะต้องใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 โดยการซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการคนละครึ่งครั้งแรกผ่านแอปฯเป๋าตัง ภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับข้อความผ่านแอปฯเป๋าตัง หรือข้อความ (SMS) แจ้งยืนยันสิทธิในโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ซึ่งหากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิในโครงการคนละครึ่งเฟส 5
คุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 มีอะไรบ้าง
1. ประชาชนที่มีสัญชาติไทย
2. มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน
3. มีบัตรประจำตัวประชาชน
4. ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 15 ส.ค. 65 และไม่เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3
5. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ และ
6. ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline