- 15 ส.ค. 2565
เริ่มแล้ว คนละครึ่ง เฟส 5 เปิดลงทะเบียนร้านค้า วันแรก 15 ส.ค.65 โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการโครงการอื่นของรัฐที่มีแอพพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว และประสงค์จะเข้าร่วมโครงการต่อไป ให้ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชัน “ถุงเงิน” ...
วันที่ 15 ส.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการ คนละครึ่ง เฟส 5 ที่เป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก สร้างเม็ดเงินสะพัดในชุมชน เจ้าของร้านค้า หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
นายธนกร กล่าวต่อว่า โดยในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เป็นวันแรกที่กระทรวงการคลัง เปิดรับลงทะเบียนให้ผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมโครงการ จนกว่าจะมีประกาศปิดรับสมัคร โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการโครงการอื่นของรัฐที่มีแอพพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว และประสงค์จะเข้าร่วมโครงการต่อไป ให้ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชัน “ถุงเงิน”
นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมมาตรการโครงการอื่น สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยทุกแห่ง โดยคุณสมบัติและประเภทกิจการที่สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และค่าบริการ (นวด สปา ทำผมทำเล็บ ค่าเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะหรือขนส่งมวลชนสาธารณะ)ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรกำนัล (gift voucherหรือgift card) บัตรเงินสด (cash card) และสินค้า บริการรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการชำระล่วงหน้า (prepaid) ส่วนในวันที่ 17 ส.ค. 65 จะเปิดรับลงทะเบียนร้านอาหารและเครื่องดื่ม สมัคร Food delivery Platform เฉพาะหมวดอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น
นายธนกร กล่าวว่า ในส่วนของประชาชน ซึ่งมีจำนวนสิทธิ 26.5 ล้านสิทธิ จะสามารถยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ผ่านแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค.65 และใช้สิทธิในการซื้อสินค้าหรือบริการภายใต้โครงการคนละครึ่งเฟส 5 ครั้งแรกผ่านแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 14 ก.ย.65 ตั้งแต่เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 เป็นโครงการที่ประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้าพึงพอใจอย่างมาก เชื่อมั่นว่า การดำเนินการโครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานรากอย่างต่อเนื่อง จะช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มอุปสงค์ในการบริโภค ช่วยเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
อีกทั้งสามารถช่วยแบ่งเบาลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่พี่น้องประชาชน เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยทุกระดับมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ และผู้ผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งรักษาระดับและทิศทางของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปี 2565
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline