ไพรวัลย์ ดึงสติปมครูบาบุญชุ่ม ลั่น "ศรัทธาล้นเกิน ปัญญาหดหาย"

จากกรณีประเด็นเรื่องอาการอาพาธของพระครูบาบุญชุ่ม ที่เป็นประเด็นสังคมให้ความสนใจเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเผยแพร่คลิป ครูบาบุญชุ่ม อาการแปลกๆ หลังออกจากถ้ำอย่างแพร่หลาย เช่น วิ่งออกจากอาสนะไปกราบไหว้สามเณรน้อย ฯลฯ ทำเอาบรรดาลูกศิษย์อดเป็นห่วงไม่ได้ ท่านมีอาการป่วยอาพาธหรือไม่ เนื่องจากอยู่ในถ้ำนานถึง 3 ปี ก่อนออกมาเจอโลกภายนอก

ต่อมาทางลูกศิษย์ได้เผยว่าขณะนี้ครูบาบุญชุ่ม อาพาธจริง และได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา 

จากนั้นได้มีการเผยถึงประวัติเณรน้อยที่พระครูบาบุญชุ่มวิ่งเข้าไปกราบไหว้ โดยมีข่าวออกมาว่า เณรน้อยที่ครูบาบุญชุ่มกราบนั้น ที่ท่านทำเพราะเห็นถึงคุณงามความดี บุญบารมีเณรน้อย เป็นการยกมือไหว้ คือ อนุโมทนาสาธุ ในบุญบารมี ยกมือไหว้ แก้ว 3 ประการ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ หรืออีกทางหนึ่ง ครูบาท่าน ยกมือ แผ่พลังบุญบารมี เพื่อคุ้มครองเณรน้อย เณรน้อยอาจจะมีบุญบารมีได้เป็นครูบาคนต่อไปมั้งครับ ครูบาบุญชุ่มเลยไปกราบแบบนั้น และยังมีข่าวออกมาอีกว่า เณรน้อยคือเจ้านางปลาบู่ทองกลับชาติมาเกิด

ล่าสุด วันที่ 15 สิงหาคม 2565 บนเฟซบุ๊กของ ไพรวัลย์ เคลื่อนไหวแล้วปมครูบาบุญชุ่ม ลั่น "ศรัทธาล้นเกิน ปัญญาหดหาย" โดยได้ระบุข้อความดังนี้

สาธุ ! บุญบาป เช่นนั้นแล้ว ดิฉันก็คงเป็นลูกเอื้อยของแม่ปลาบู่ทองกลับชาติมาเกิดเช่นกันค่ะ แหม่ !

พูดแบบจริงจัง ดิฉันไม่มีปัญหานะคะ ถ้าครูบาท่านอาพาธอยู่ แต่หากอาพาธและมีอาการป่วยจริง ลูกศิษย์ก็ควรดูแลท่านค่ะ ไม่ควรพยายามโปรโมท หรือหาทางอธิบายอาการแปลกๆ ที่ท่านมี ให้เป็นเรื่องของอภินิหารและสิ่งที่ต้องยกมือสาธุไปหมด

ศรัทธาล้นเกิน ปัญญาหดหาย ไม่ว่ากับเรื่องอะไรก็ไม่ดีทั้งนั้นเลยนะคะ ศรัทธาล้นเกิน ที่สุดแล้วจะทำร้ายทั้งตัวของผู้ที่ถูกศรัทธาและตัวของคนที่ศรัทธาเองค่ะ ดิฉันกล่าวด้วยความปรารถนาดี

ดิฉันเห็นว่า อย่างน้อยครูบาท่านก็มีปฎิปทาบางอย่างที่น่านับถือนะคะ คือท่านภาวนา ดังนั้นอย่าทำให้การเข้าถ้ำตลอดเวลา 3 ปี 3 เดือน 3 วัน ของท่านเป็นของสูญเปล่าเลยค่ะ 

เราควรมีพระที่ดีในการกราบไหว้นับถือ เพราะท่านเป็นพระธรรมดาที่มีศีลาจารวัตรน่าเลื่อมใส ไม่ใช่เพราะท่านเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ และมีเรื่องปาฎิหาริย์ชวนให้น่าสงสัยกังขาเต็มไปหมด

ขอบคุณ ไพรวัลย์ วรรณบุตร

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline