ทนายตั้ม บุกขอโอนคดีหลานอดีตรัฐมนตรี มอมยาขืนใจดาราสาว เข้ากองปราบ

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ พร้อมด้วยผู้เสียหายที่ถูกหลานอดีตรัฐมนตรีล่วงละเมิดทางเพศ เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อร้องขอให้โอนคดีจาก สน.โชคชัย มาให้สอบสวนต่อที่กองปราบปราม หลังจากไม่เชื่อมั่นการทำคดีของตำรวจสน.โชคชัย กรณีที่นำหลักฐานสำคัญที่เป็นแชทไลน์ของผู้เสียหายและผู้ต้องหา ออกจากสำนวน และการสอบสวนผู้เสียหายที่ไม่ละเอียดรอบคอบ 

 

 

 

ผู้เสียหาย ยืนยันว่า มีหลักฐานที่ผู้ต้องหาก่อเหตุจริง และที่มาดำเนินคดีไม่ได้เป็นการแบล็กเมล์ตามที่ผู้ต้องหาได้กล่าวอ้าง ซึ่งการการกระทำของผู้ต้องหาหากไม่ได้ทำผิดจริง ทำไมถึงต้องพยายามโทรศัพท์มาเสนอเงินเพื่อให้ยุติการแจ้งความ ส่วนวันเกิดเหตุยอมรับว่ามีการทะเลาะกับพี่สาวก่อนจริง แต่เป็นการทะเลาะเรื่องงานที่รับมาเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าตอนที่รับงานนี้ไม่ได้ขาดสติ ส่วนเรื่องการติดต่อโรงแรมที่พักร่วมกับผู้ต้องหา ยังไม่ขอพูดถึงขอให้เป็นเรื่องในสำนวน

 

 

ด้านพี่สาวของผู้เสียหาย ยืนยันว่าผู้ต้องหาพยายามติดต่อให้รับงานแสดงมิวสิกวิดีโอ ซึ่งตอนแรกสงสัยว่าทำไมระดับผู้บริหารถึงมาติดต่องานเอง แต่ก็ได้เสนอประวัติ และผลงานของผู้เสียหายให้ และตกลงรับงานไป ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหา อ้างว่าการออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ และอ้างถึงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีของบรรพบุรุษ ทำให้ตระกูลได้รับความเสียหายนั้น ทางผู้เสียหายยืนยันว่า ที่ผ่านมาผู้ต้องหาพยายามใช้เครดิตของบรรพบุรุษของตัวเองมากล่าวอ้างตลอดว่ากำลังจะลงสมัครทางการเมืองและสามารถทำไรได้บ้าง

 

 

ผู้เสียหาย ยังบอกว่า ในวันเกิดเหตุที่มาแจ้งความ ตำรวจยังพูดจาไม่ดีกับตน และพยายามไล่ให้ไปตรวจร่างกายใหม่ซึ่งห่างจากเวลาเกิดเหตุมาหลายวัน ทั้งที่ไปตรวจมาแล้ว และเห็นว่าพยายามที่จะแก้ไขสำนวน ซึ่งก็เห็นด้วยที่ผู้บังคับบัญชาให้รองผู้กำกับสอบสวน สน.โชคชัย ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นก่อน ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ทางญาติของหลานอดีตรัฐมนตรีท้าให้กินน้ำสาบานวัดพระแก้วเพื่อพิสูจน์ความจริงนั้น ทางผู้เสียหายพร้อมรับคำท้าตลอดเวลา ซึ่งตั้งแค่ที่เป็นข่าวมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการโทรมานัดหมายเวลาเสียที ถึงแม้ผู้เสียหายจะไม่ค่อยเชื่อในเรื่องนี้แต่ก็ยินดีพร้อมที่จะทำและขอให้ตัวผู้ต้องหาออกมาร่วมกินน้ำสาบานด้วยตนเอง

 

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline