ส.ว.ธานี เผยถึงความสัมพันธ์ เจ๊นุช ส.ต.ท.หญิง หลังโผล่ป้ายชื่อทำบุญคู่กัน

ส.ว.ธานี เผยถึงความสัมพันธ์ เจ๊นุช ส.ต.ท.หญิง หลังโผล่ป้ายชื่อทำบุญคู่กัน คืบหน้ากรณี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้มทำร้ายร่างกายอดีตทหารหญิงรับใช้ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าว พล.ต.ต.อุดร วงษ์ชื่น ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1 ลงนามในคำสั่งกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ที่ 199/2565 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2565 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ใจความว่า

 

เนื่องจาก ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ต้องหาคดีอาญา โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี มีพยานหลักฐานเพียงพอในการแจ้งข้อกล่าวหา เรื่องค้ามนุษย์ฯบังใช้แรงงานหรือบริการ และเอาคนลงเป็นทาส, ประทุษร้ายต่อร่างกายและจิตใจฯ เหตุเกิดบ้านเลขที่ 128/6 หมู่ 4 ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี ระหว่าง 5 มกราคม 2564- 13 สิงหาคม 2565

 

อันเป็นกรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีเหตุให้พักราชการได้ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 3(1)(2) หากให้อยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดการเสียหายฯ พิจารณาแล้วการสอบสวนพิจารณาคดีจะไม่เสร็จสิ้นโดยเร็ว

 

 

ขณะเดียวกันด้าน นายธีรัจชัย พันธุมาศ และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้แถลงว่า เรื่องการฝาก ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ไปที่ กอ.รมน. ภาค 4 นั้น ส่อไปในทางมิชอบ และยังมีชื่อของนายธานีอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งคู่กันกับ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ และต่อมามีคำสั่งแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการฯ ลงชื่อโดย พลเรือเอก ศิษฐวัชร์ วงษ์สุวรรณ (น้องชายของ พล.อ. ประวิตร )

 

อีกทั้ง ทาง ส.ส.ก้าวไกล ยังอ้างว่า นายธานีเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส กระทิงแดง ทั้งนี้ จะมีการเชิญบุคคล 3 คน เพื่อเข้ามาให้ปากคำต่อกรรมาธิการ ปปช. เกี่ยวกับเรื่องการฝากเด็กในระบบอุปถัมภ์ โดย 3 คนที่จะถูกเชิญนั้นมีดังนี้

1. นายธานี อ่อนละเอียด ส.ว. และอดีตกรรมาธิการการกฎหมายฯ สนช.
2. พลเรือเอก ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ลงชื่อแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ เป็นที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมายฯ สนช.
3. พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตกรรมาธิการการกฎหมายฯ สนช.

โดย ส.ว.ธานี อ่อนละเอียด ซึ่งมีชื่อคู่กับ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์บัวแย้ม ได้ส่งแถลงการณ์มาให้สื่อมวลชน ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า  ส.ว.ธานี ปัจจุบันอยู่ในสถานะโสด หย่าร้างมาเกือบ 30 ปี และประกอบอาชีพทนายความตั้งแต่ปี 2521 ในส่วนกรณีการทำร้ายร่างกายของ ส.ต.ท.หญิง ที่ทำร้ายทหารรับใช้นั้น ถือเป็นข้อพิพาทของคนสองคน และตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อหรือรุ้เห็นเป็นใจกับการกระทำดังกล่าว

ทั้งนี้ ส.ว.ธานี ยอมรับว่า ตนเคยรู้จักและสนิทสนมกับ ส.ต.ท.หญิง แต่ได้ขาดการติดต่อมานาน และเพิ่งทราบว่า ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ได้คบหากับชายที่เป็นข่าว ดังนั้น การนำเสนอข่าวใดๆ ควรคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของสตรี และไม่ก้าวล่วงเรื่องส่วนบุคคล

ส่วนคำกล่าวอ้างที่ว่า นายธานีคือคนที่ชงคดี บอส อยู่วิทยา จนเป็นเหตุให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง โดยกรรมาธิการในยุค สนช. นั้น มีนายธานีนั่งเป็นเลขานุการ ว่า ตนใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อหลายองค์กร โดยเฉพาะอย่งยิ่งต่อวุฒิสภา ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบจริยธรรมของวุฒิสภาและคณะกรรมการ ปปช. ให้ดำเนินการไปตามหน้าที่

และตนพร้อมแสดงข้อเท็จจริงต่อกระบวนการตรวจสอบ และหากคณะกรรมการตรวจสอบของทั้งสองหน่วยงาน มีมติเป็นประการใด ตนพร้อมน้อมรับคำวินิจฉัย ซึ่งสื่อมวลชนจะได้รับทราบถึงคำวินิจฉัยและข้อเท็จจริง กระบวนการนี้ใช้เวลาไม่นาน พร้อมกับยืนยันว่า ตนไม่เคยใช่ตำแหน่งโดยมิชอบตามข้อกล่าวหา หน่วยงานแต่ละหน่วยงานล้วนแต่มีระเบียบในการแต่งตั้งและโยกย้าย

ในส่วนคดีของ บอส อยู่วิทยา นั้น เป็นการร้องเรียนต่อคณะกรรมการสมัย สนช. ซึ่งร้องเรียนครบตามองค์ประกอบของการร้องเรียน คณะกรรมการต้องรับเรื่องไว้พิจารณดำเนินการเพื่อสอบหาข้อเท็จจริงและสรุปเรื่องราว เพื่อส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหน้าที่ เมื่อส่งไปแล้วปรากฏว่าหน่วยงานนั้นไม่มีผลในการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ย่อมเป็นที่ยุติ และตนขอเน้นยำว่าหลังจากนั้นคณะกรรมาธิการไม่ได้ไปมีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับ นายธานี อ่อนละเอียด เริ่มงานด้านการเมืองตั้งแต่ปี 2554 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหลายอย่างในวุฒิสภา เช่น  รองประธานคณะกรรมาธิการ กมธ. ศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล, กรรมาธิการ กมธ. การกฎหมาย การยุติธรรม และการตำรวจ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline