- 02 ก.ย. 2565
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2565
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2565 ความดังต่อไปนี้
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าตัวยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน พ.ศ. ๒๕๔๐ เพื่อปรับปรุงการดำเนินการของศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานให้รองรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ประเภทผู้พำนักระยะยาว (long-term resident visa : LTR Visa) ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย และคู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนชาวต่างชาติซึ่งเป็นบุคลากรกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ โดยสามารถยื่นคำขอตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวได้ที่ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑ (๘) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๕"
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๔/๒) และ (๔/๓) ของบทนิยามคำว่า "ผู้ขอ" ในข้อ ๔ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโตยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๖๓ "
(๙/๒) คนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ โดยมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี รวมถึงผู้ติดตามของคนต่างต้าวที่มีศักยภาพสูงซึ่งเป็นคู่สมรสและบุตรที่ชอบตัวยกฎหมายซึ่งมีอายุไม่เกินยี่สิบปี
(๔/๓) คนต่างด้าวซึ่งเป็นบุคลากรกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักรจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และที่ได้รับการรับรองเงินลงทุนที่มาจากต่างประเทศที่ใช้จ่ายสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ตามมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา" กันยายน ๒๕๖๕
ข้อ ๔ ให้ยกเลิกวรรคสองและวรรคสามของข้อ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน พ.ศ. ๒๕๔๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "ให้เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแต่งตั้งข้าราชการ ซึ่งสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนคนหนึ่งเป็นผู้อำนวยการ ให้มีหน้าที่ควบคุมดูแลซึ่งราชการของศูนย์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ชัดเจน และโปร่งใสผู้อำนวยการจะแต่งตั้งผู้ปฏิบัติงานในศูนย์เป็นรองผู้อำนวยการเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานตามที่ผู้อำนวยการมอบหมายก็ได้"
ข้อ ๕ ให้ยกเลิกความใน (๖) ของข้อ ๘ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๖๑และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "(๖) การขอแก้ไขและขอยกเลิกตราประทับของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง"
ข้อ ๖ ให้ยกเสิกวรรคสองของข้อ ๙ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดตั้ง ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน พ.ศ. ๒๕๔. ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. 6๕๖๑ และให้ใช้ความ ต่อไปนี้แทน "ในกรณีตามวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นการยื่นขอรับรองคุณสมบัติการมีสิทธิได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ (Smart Visa) และการยื่นขอรับรองคุณสมบัติการมีสิทธิได้รับ การตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ประเภทผู้พำนักระยะยาว (long-term resident visa : LTR Visa) ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่ทำหน้าที่รับรองคุณสมบัติตรวจพิจารณาและกลั่นกรองคุณสมบัติของผู้ขอตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันทำการนับแต่วันที่ได้รับคำขอ"
ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ขอบคุณ ราชกิจจานุเบกษา
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline