- 07 ก.ย. 2565
พ่อแม่ยากทำใจ หมอวิดีโอคอลสอนพยาบาลทำคลอดลูกคนแรก โทษเป็นความผิดแม่ไม่ยอมเบ่ง ทำทารกน้อยสำลักน้ำคร่ำเสียชีวิต
หมอวิดีโอคอลสอนพยาบาลทำคลอด โทษแม่ไม่เบ่งทำทารกสำลักน้ำคร่ำเสียชีวิต อีกเคสสุดสลดที่ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อเพจ Survive - สายไหมต้องรอด ได้เล่ากรณีเหตุการณ์คุณแม่ป้ายแดงคนหนึ่ง ที่เฝ้ารอที่จะได้พบหน้าและเลี้ยงดูลูกชายคนแรก ทว่าเมื่อถึงเวลาคลอด หมอวิดีโอคอลสอนพยาบาลทำคลอด แต่เมื่อลูกน้อยของเธอออกมากลับอาการแย่ และเสียชีวิตในที่สุด
โดยทางเพจระบุเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า "#โรงพยาบาลในจังหวัดปทุมธานี แม่ใจสลาย ทารกน้อยสำลักน้ำคร่ำเสียชีวิต หลังไปคลอดลูกที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยคุณหมอใช้วิธีการวีดีโอคอล มาอธิบายวิธีการทำคลอด ให้พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลช่วยกันทำคลอดอย่างทุลักทุเล
ใช้เวลาทำคลอดนานกว่า 3 ช.ม. ตั้งแต่ 12.00 - 15.30 น. แม่พยายามร้องขอให้ผ่าคลอดเนื่องจากแบ่งจนสุดแรงแล้วแต่หัวของทารกก็ยังไม่ออกมา สุดท้ายผ่านไป 3 ชม. จนแม่หายใจรวยริน คุณหมอที่วีดีโอคอลจึงตัดสินใจให้พยาบาลใช้เครื่องดูดทารกออกมาจากช่องคลอด แต่ไม่ทันการ ทารกสำลักน้ำคร่ำ จนนอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัว ต้องส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ปทุมธานี
ผ่านไป 2 สัปดาห์ รพ.แจ้งว่าสุดยื้อชีวิต ต้องปล่อยลูกน้อยจากไป พ่อ-แม่ ประสาน #เพจสายไหมต้องรอด ส่งรถรับศพทารกน้อยไปประกอบพิธีทางศาสนาทั้งน้ำตา #แอดขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ #เรื่องนี้ใครควรรับผิดชอบคะ กระทรวงสาธารณสุข กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สบส. กระทรวงสาธารณสุข????"
แม่ของทารกวัย 25 ปีได้เปิดใจว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. เวลาประมาณ 09.00 น. เจ็บท้องเลยไปหาหมอที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ซึ่งหมอบอกว่ามดลูกเปิด 1 ซม.และก็ให้กลับบ้าน พอตกกลางคืนตนปวดท้องอีก จึงไปหาหมออีกครั้ง และหมอก็ให้นอนที่โรงพยาบาล พอมดลูกเปิด 2 ซม.และมีความดันสูง พอช่วงเช้าหมอให้ยาเร่งคลอดและมดลูกก็ทยอยเปิด
ซึ่งตนเจ็บตั้งแต่ 5 ซม.แรก และบอกกับหมอว่า อยากย้ายโรงพยาบาลให้ส่งฉุกเฉินผ่าได้ไหม โรงพยาบาลไหนก็ได้ หมอก็บอกว่าถ้าจะให้ส่งตัวไปก็ต้องเซ็นปฏิเสธการรักษาที่โรงพยาบาลของเขา และให้เราไปเอง โรงพยาบาลจะไม่ไปส่ง ซึ่งตนไม่มีเงิน และช่วงเที่ยงวันที่ 20 ส.ค. พยาบาลจึงพาเข้าห้องคลอด
ขณะที่หมอทำคลอดเรารู้หมด ตนเบ่งจนสุดแล้วลูกก็ยังไม่ออก หมอก็โทรศัพท์หาหมอใหญ่และบอกว่าเราไม่เบ่งเลย วินาทีนั้นตนเบ่งจนร่างกายไม่ไหวแล้ว จนหมอบอกว่าจะส่งผ่าที่ รพ.อีกแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานีเช่นกัน ซึ่งทาง รพ.ดังกล่าวนั้นแจ้งว่าหมอทำคลอดออกเวรแล้ว จากนั้นหมอทั้ง 2 โรงพยาบาลก็ได้วิดีโอคอลคุยกันเพื่อที่จะทำคลอด
"หมอก็ได้ใช้เครื่องดูดลูกออกมาและพยาบาลบอกว่าลูกเราไม่ดีแล้วนะ เพราะเราไม่เบ่ง จนเวลาประมาณ 15.40 น.ลูกก็ออกมาแต่ไม่หายใจ แล้วหมอก็พยายามปั๊มหัวใจและตีลูกให้เด็กตื่น และเขาก็บอกว่าเราไม่เบ่ง ไม่ทำอะไรเลย อะไรก็โทษแต่พยาบาลโทษแต่หมอ ณ ตรงนั้นเขาบอกว่าให้ทำใจเพราะลูกเราไม่ดีตั้งแต่แรก" แม่เด็กอธิบาย
ตนไม่รู้ว่าคำว่าไม่ดีตั้งแต่แรกเป็นตั้งแต่ในท้องหรือตอนที่ทำคลอด เพราะเขาไม่อธิบายกรณีที่ตนขอผ่าคลอดแล้วเขาไม่ให้แม่ต้องมีอาการแทรกซ้อน มีโรคประจำตัว ลูกไม่ดี ลูกตัวเล็ก ซึ่งลูกตนตัวเล็กอยู่แล้ว 8 เดือน น้ำหนักแค่ 1,500 กิโลกรัม เขาไม่อ่านรายละเอียดหรือ เพราะตนฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล มศว. พอเข้าเดือนที่ 8 ตนย้ายมาที่ รพ.ดังกล่าว ใช้สิทธิบัตร 30 บาท และใกล้บ้านด้วย ตนสงสัยว่าทำไมเขาไม่อ่านรายละเอียดตั้งแต่แรก ว่าลูกเราตัวเล็ก และตนก็เป็นโรคหอบ เขาจึงไม่ส่งผ่าคลอด
กระทั่งวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งตัวลูกตนมาที่ รพ.ปทุมธานี จากนั้นก็ส่งลูกไปที่ รพ.เด็ก จ.สระบุรี เพื่อแสกนสมองและปรับร่างกายเป็นเวลา 3 วัน แล้วก็ส่งตัวมารักษาที่ รพ.ปทุมธานีต่อ แต่ลูกก็ไม่ดีขึ้น คือไปยังไงก็กลับมาอย่างนั้น ซึ่งทาง รพ.สระบุรี ก็ให้ทำใจเพราะน้องที่สำลักน้ำคร่ำ จนต้องหยุดติการรักษา ถ้ารักษาต่อก็ไม่หาย 100% คือพิการติดเตียง และมีการเจาะท้อง เจาะคอ เพื่อให้สารอาหาร ตนจึงต้องตัดใจปล่อยลูกไป
"เขาเป็นลูกชายคนแรกและตั้งใจมาก อยากให้โรงพยาบาลออกมาพูดคุยว่าจะต้องทำอย่างไร อุ้มท้องมา 9 เดือน ยังไม่ได้เลี้ยงลูกเลย และที่อยู่ในห้องคลอดมีแต่พยาบาลประมาณ 5-6 คน และก็ผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งไม่มีหมอทำคลอดอยู่ และต้องขอขอบคุณ พี่เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และทีมงานที่เข้ามาช่วยเหลือ พร้อมกับนำรถมารับลูกไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเกศประภา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี" แม่ผู้โชคร้ายระบุ
ภาพจาก Survive - สายไหมต้องรอด
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline