- 20 ก.ย. 2565
"อัจฉริยะ" ร้อง ปปป. ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ DSI ทุจริตคดีพริตตี้ชบา หลังพบมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 ก.ย.65 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เพื่อร้องขอให้ดำเนินการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษบางราย หลังพบมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง โดยมี พ.ต.ท.ชนายุทธ ชูเฉลิม สว.สอบสวน กก.6 บก.ปปป. เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้ก็เพื่อต้องการให้ทาง บก.ปปป. สืบสวนสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษบางรายที่ทำคดีพริตตี้ชบาบัญชีม้า หลังพบมีการนำเอาคดีดังกล่าวมาบิดเบือนเป็นคดีสมคบยาเสพติด แล้วนำไปใช้กล่าวอ้างอายัดบัญชีธนาคารกลุ่มเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ต่างๆทั่วประเทศ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง จากการตบทรัพย์กลุ่มบุคคลผู้ที่ถูกอายัดบัญชีเหล่านี้ ก่อนจะถอนอายัดให้ในภายหลัง หลังจากที่ได้เรียกรับผลประโยชน์เสร็จสิ้นแล้ว โดยให้เหตุผลว่าตรวจสอบไม่พบความผิด และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครถูกดำเนินคดี ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วก็เพราะว่าในความเป็นจริง "ชบา" เป็นเพียงพริตตี้อยู่ที่ภาคใต้ รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับเครือข่ายพนันออนไลน์เท่านั้น เช่นเดียวกับผู้ที่ถูกอายัดบัญชีก็เป็นเพียงเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากข้อมูลที่มีอยู่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเกี่ยวข้องชัดเจนแล้วจำนวน 3 คน แต่ เชื่อว่าน่าจะมีผู้เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 10 คน และอาจโยงไปถึงอธิบดีบางท่าน หรือ คนใกล้ชิดของรัฐมนตรี ซึ่งเรามีหลักฐานเป็นเอกสารลับที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอด้วยกันเองที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว โดยในเอกสารลับนี้มีระบุรายละเอียดไว้หมดไม่ว่าจะเป็น เส้นทางการเงินบัญชีธนาคารผู้ถูกอายัด รายชื่อผู้ถูกอายัด รวมถึงข้อมูลหลักฐานอื่นๆอีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังทราบอีกว่าเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวมีการเบิกเงินงบประมาณจำนวนกว่า 7 แสนบาท เพื่อนำไปใช้ในการเข้าตรวจค้นอายัดบัญชีผู้ต้องสงสัยเพียงครั้งเดียว ซึ่งถือเป็นเงินที่มากเกินความจำเป็นเมื่อเทียบกับการใช้เงินของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าตรวจค้นเป้าหมายที่ใช้เพียงไม่กี่หมื่นบาท
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา ก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline