- 22 ก.ย. 2565
ย้อนไทม์ไลน์ชีวิต เปิดเส้นทางอดีต รปภ.สู้ชีวิต ผ่านสารพัด10อาชีพ สอบตก ก.พ. หลายปี แต่ไม่ท้อสู้ต่อจนสอบบรรจุ "ปลัดอำเภอ" สำเร็จ
ท่ามกลางกระเเสชื่นชมในโลกโซเชี่ยล กับ อดีต รปภ.สู้ชีวิต"พชรดนัย สิทธิพิพัฒนกิจ" ลบทุกขีดจำกัดชีวิต เรียนจบคณะรัฐศาสตร์ ม.รามฯ สู่ปลัดอำเภอ เปิดเส้นทางอดีต รปภ.สู้ชีวิต ก่อนจะมาเป็น ปลัดอำเภอ ทำมาแล้วสารพัด10อาชีพ มุ่งมั่นอ่านหนังสือ ตอนทำงานเป็น รปภ. แม้ว่าจะสอบตก ก.พ.หลายปี แต่ก็ยังสู้ไม่ เคยท้อ ตั้งมั่นจนประสบผลสำเร็จ สอบบรรจุปลัดอำเภอได้ ซึ่งปัจจุบัน พชรดนัย บรรจุเป็นปลัดอำเภอท่าใหม่ จันทบุรี เรียบร้อยแล้ว
สำหรับชีวิตตั้งแต่ ป.6 - ม.6 นายพชรดนัย เริ่มทำงานร้านอาหารที่นาจอมเทียน เสิร์ฟอาหารบ้าง เป็นบาร์เทนเดอร์บ้าง ทำงานโรงแรมบ้าง ทำงานช่วงสุดสัปดาห์เก็บเงินได้ 300 - 400 บาท ให้พอมีเงินไปโรงเรียน กระทั่งจบ ม.6 แม่บอกข่าวร้ายกับเขาว่า "ไม่มีเงินให้เรียน" พี่ชายคนโตก็ติดทหาร คนกลางก็ออกมาทำงาน สมาชิกในบ้านไม่มีใครได้เรียนปริญญาตรี "พชรดนัย" ตัดสินใจบอกแม่ว่า จะทำงานหาเงินเพื่อเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงด้วยตัวเอง และเลือกเรียนคณะรัฐศาสตร์เพราะเป็นคณะที่มีคนเรียนมาก
โดยทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่า พชรดนัย ก้าวสู่รั้วรามคำแหงในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2554 พร้อมกับเงินดำรงชีวิตจากครอบครัวจำนวน 1300 บาท ชีวิตนักศึกษาเริ่มต้นด้วยการเช่าหอพักใกล้มหาวิทยาลัย เพื่อเข้าเรียนตามปกติเหมือนนักศึกษาทั่วไป ทว่าผ่านไป 3 วัน พชรดนัยรู้ตัวว่าไม่สามารถดำเนินชีวิตเช่นนี้ได้ เงินในกระเป๋าเริ่มลดลงและคงจะหมดในเร็ววัน หวนนึกถึงปณิธานของตนในวันที่เอ่ยกับคุณแม่ คือ ผมจะเรียน ม.รามคำแหง ส่งตัวเองด้วยการทำงานและเรียนไปด้วย จนกว่าจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางข้าราชการ
ครอบครัวของ พชรดนัย มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน โดยมีคุณพ่อเป็นเสาหลักในการหาเงินจุนเจือครอบครัว ซึ่งไม่เพียงพอต่อการส่งเสียด้านการศึกษา ทุกคนจึงเรียนจบเพียงการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงาน ส่วนตนเองนั้นมีความฝันจะทำงานเป็นข้าราชการ จึงคิดหาหนทางที่จะไปสู่จุดนั้นให้ได้
“หลังจากจบ ม.6 และทราบว่าครอบครัวไม่สามารถส่งให้เรียนต่อได้ ผมใช้เวลาครุ่นคิดอยู่หลายวันว่าจะทำตามความฝันในการรับข้าราชการได้อย่างไร กระทั่งเพื่อนแนะนำมหาวิทยาลัยรามคำแหงให้รู้จัก ซึ่งเป็นสถาบันแห่งโอกาสที่มีค่าเทอมถูกที่สุด จึงตัดสินใจทันทีว่าจะเรียนต่อที่นี่ เพื่อให้เป็นจุดเริ่มต้นของการทำตามความฝัน และจะต้องพยายามด้วยตนเองจนกว่าจะประสบความสำเร็จ
เมื่อรู้ที่หมายด้านการเรียนต่อของตนเองแล้ว การเลือกคณะก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องใช้เวลาคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน เพื่อน ๆ แนะนำให้เรียนนิติศาสตร์ เพราะผมชอบเรียนด้วยการท่องจำ และเป็นคณะเหมาะกับผม แต่การเรียนกฎหมายดูท่าว่าจะยากเกินไป จึงเลือกคณะรัฐศาสตร์แทน ซึ่งพอจะแบ่งเวลาเรียนและเวลาทำงานได้”
ขณะเป็นนักศึกษา พชรดนัย ทำงานพาร์ทไทม์ควบคู่กับการเรียน อาทิ พนักงานร้านสะดวกซื้อ ลูกจ้างร้านอัดรูป พนักงานเสิร์ฟ และอื่น ๆ ที่สามารถสร้างรายได้ให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ในที่สุดการทำงานก็กลืนกินเวลาเรียนที่สำคัญไป ทำให้การเรียนในช่วง 3 ปีแรก พชรดนัย สะสมหน่วยกิตได้เพียง 50 หน่วยกิต ก่อนจะกลับมามุ่งมั่นตั้งใจเรียน เก็บหน่วยกิตที่เหลือทั้งหมดตามหลักสูตร โดยใช้เวลาเรียนต่ออีก 1 ปีครึ่ง รวมระยะเวลาการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ ม.ร. คือ 5 ปี จบการศึกษาปี 2558
“เส้นทางการเป็นข้าราชการดำเนินต่อหลังจากจบปริญญาตรี ผมสอบ ก.พ. หรือการสอบความรู้ความสามารถเพื่อคัดเลือกบุคคล เข้าทำงานในหน่วยงานราชการ แต่ก็สอบตกตั้งแต่ปีแรก และปีต่อมาก็มีครอบครัว ทำให้ต้องดูแลภรรยาและลูก มีภาระหน้าที่ที่หนักขึ้น ไฟในการเดินตามความฝันเริ่มดับลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไปสอบ ก.พ. ทุกปี ตั้งแต่ปี 2559 – 2561 กระทั่งสอบผ่านนักคิดวิเคราะห์และแผน ในปีพ.ศ.2562 และมีสิทธิ์สอบ ก.พ. ภาคพิเศษ ซึ่งในขณะนั้น ผมทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ด้วย
สถานที่ทำงานงานรักษาความปลอดภัยอยู่บนทางด่วนที่กำลังสร้างใหม่ ผมมีหน้าที่หลักคือตรวจตราดูความเรียบร้อยของพื้นที่ ซึ่งพอจะมีเวลาว่างให้อ่านหนังสือ จึงใช้โอกาสนี้ทบทวนความรู้และฝึกหัดทำข้อสอบ เรียนรู้เพิ่มเติมจากช่องทางต่าง ๆ จนที่สุดก็สอบผ่านทั้ง ก. และ ภาค ข. ได้”
พชรดนัย กล่าวต่ออีกว่า ผลสอบผ่านทำให้มีแรงกลับมาสู้บนเส้นทางข้าราชการอีกครั้ง จึงมุ่งมั่นอ่านหนังสือเพื่อเข้าสอบคัดเลือกเป็นปลัดอำเภอ ซึ่งมีกำหนดสอบในปี 2564 ควบคู่กับการดำรงอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย โดยไม่คิดจะเปลี่ยนที่ทำงานจนกว่าจะสอบได้ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 พชรดนัย เข้าสอบคัดเลือกเป็นปลัดอำเภอ ณ สนามสอบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สามารถสอบผ่านไปสู่การสอบสัมภาษณ์ และสอบได้ลำดับ 454 โดยปัจจุบัน พชรดนัย ได้บรรจุเป็นปลัดอำเภอท่าใหม่ จ.จันทบุรี เรียบร้อยแล้ว
“สำหรับน้อง ๆ ที่เพิ่งเรียนจบ หรือใครที่กำลังลังเลว่าชีวิตจะเดินไปทางไหนต่อ ขอแนะนำ ม.รามคำแหง สถาบันแห่งโอกาสที่มีค่าเทอมถูกที่สุด เพียงหน่วยกิตละ 25 บาท ค่าลงทะเบียนต่อเทอมประมาณ 1400 บาท และเป็นสถาบันที่ไม่บังคับเข้าเรียน เราสามารถเลือกเรียนในช่องทางที่สะดวกได้ ขอเพียงศึกษาให้มีความรู้ เข้าสอบให้ผ่านทุกวิชา ไม่ว่าคุณจะมีอายุ 18 ปี หรือ 50 ปี ก็สามารถเรียนและทำตามความฝันได้
ขอบคุณ ม.รามคำแหง ที่ให้โอกาสด้านการศึกษา ขอบคุณเพื่อน ๆ ในเพจรัฐศาสตร์ ม.ร. FC ที่คอยแบ่งปันวิธีเรียน วิธีสอบ รวมถึงวิธีเลือกวิชาลงทะเบียนในแต่ละเทอม และขอบคุณคณาจารย์ที่ตั้งใจสอนให้ศิษย์มีความรู้ มีความเท่าเทียมกันทุกคน พูดได้เลยว่าถ้าไม่มี ม.รามคำแหง ก็คงไม่มีปลัดอำเภอคนนี้
cr. PR Ramkhamhaeng University / คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
พชรดนัยเป็นปลัดอำเภอแล้วยังไงต่อ?
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม thainewsonline