ราชกิจจาฯประกาศ ผลการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่ รฟท. ครั้งที่ 6

ราชกิจจาฯ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 6

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ผลการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 6 ความว่า เพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรา 16 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า กระทรวงการคลังโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2565 

ราชกิจจาฯประกาศ ผลการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่ รฟท. ครั้งที่ 6

 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 มาตรา 20 (4) และมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้ 

1. กระทรวงการคลังได้ดำเนินการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่ รฟท. สำหรับโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) วงเงิน 5,300,000,000 บาท (ห้าพันสามร้อยล้านบาทถ้วน) โดยวิธีการทำสัญญากู้ยืมเงิน (Term Loan) กับสถาบันการเงิน

2. การเบิกเงินกู้ กระทรวงการคลังจะทยอยเบิกเงินกู้ นับตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 จนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 โดยจะแจ้งผู้ให้กู้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันทำการ

3. อายุเงินกู้ 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ครบกำหนดในวันที่ 25 กรกฎาคม 2569

4. อัตราดอกเบี้ย

4.1 อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง บวกส่วนต่างร้อยละ 0.395 (ศูนย์จุดสามเก้าห้า) ต่อปี
4.2 อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง หมายความว่า อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงระยะสั้นตลาดกรุงเทพ ระยะ 6 เดือน (BIBOR 6 M) ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย
4.3 การปรับอัตราดอกเบี้ยทุกงวด 6 เดือน หากอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง โดยอัตราดอกเบี้ยงวดแรกจะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ณ วันเบิกเงินกู้ สำหรับการใช้อัตราดอกเบี้ยในงวดต่อๆ ไป จะใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ณ วันครบกำหนดชำระดอกเบี้ย เพื่อใช้คำนวณดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลา 6 เดือนถัดไป การคำนวณดอกเบี้ยให้ถือว่าหนึ่งปีมี 365 วัน นับตามจำนวนวันที่เกิดขึ้นจริง เศษของหนึ่งสตางค์ให้ปัดทิ้ง ชำระดอกเบี้ยงวดแรกในวันที่ 25 มกราคม 2566 และชำระดอกเบี้ยงวดสุดท้ายในวันที่ 25 กรกฎาคม 2569 

5. การชำระดอกเบี้ย ตลอดเวลาที่สัญญายังมีอายุอยู่ให้แบ่งชำระดอกเบี้ยปีละสองงวด คือวันที่ 25 มกราคม และ 25 กรกฎาคม ของทุกปี สำหรับดอกเบี้ยงวดสุดท้ายจะชำระพร้อมต้นเงินกู้ ณ วันสิ้นสุดตามสัญญากู้ยืมเงิน หากวันครบกำหนดชำระดอกเบี้ยตรงกับวันหยุดธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ให้เลื่อนไปช าระในวันทำการถัดไป โดยไม่นับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยดังกล่าวเข้ารวมเพื่อคำนวณดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดชำระ ยกเว้นการชำระต้นเงินกู้งวดสุดท้ายให้คำนวณดอกเบี้ยจนถึงวันก่อนวันชำระหนี้

6. การชำระคืนต้นเงินกู้ กระทรวงการคลังสามารถชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนครบกำหนด ได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วนก็ได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะแจ้งให้สถาบันการเงินทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันทำการโดยกระทรวงการคลังจะชำระดอกเบี้ยคงค้างของต้นเงินกู้ที่ค้างชำระ พร้อมกับการชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนกำหนดนั้น 

ทั้งนี้ ดอกเบี้ยคงค้างให้คำนวณนับตั้งแต่วันที่กระทรวงการคลังชำระคืนดอกเบี้ยครั้งล่าสุดจนถึงวันก่อนวันที่กระทรวงการคลังชำระคืนต้นเงินกู้ก่อนกำหนด โดยหากวันครบกำหนดชำระคืนต้นเงินกู้ตรงกับวันหยุดตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยให้เลื่อนไปชำระคืนในวันทำการถัดไป

7. ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายใดๆ

ประกาศ ณ วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ชุณหจิต สังข์ใหม่ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน ปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

 

ราชกิจจาฯประกาศ ผลการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่ รฟท. ครั้งที่ 6

 

ขอบคุณ ราชกิจจานุเบกษา

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline