ญาติโผล่แก้ข่าว เล่าปมพ่อเอา "ฮาชิ" ไปปล่อย ความจริงไม่ใช่แบบที่ลูกแฉ

ญาติโผล่แก้ข่าว เล่าปมพ่อเอา "ฮาชิ" ไปปล่อยไว้ข้างทางจนโดนรถชน ความจริงไม่ใช่แบบที่ลูกแฉ กรณีลูกสาวแจ้งความจับพ่อขโมยแมวไปปล่อยจนรถชนตาย

จากกรณีข่าวลูกสาวแจ้งจับพ่อแท้ๆขโมยแมวไปปล่อยจนโดนรถชนดับ โดยลูกสาวได้ร้องทุกข์ไปยังมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT ให้เป็นผู้ดำเนินการให้ ทางมูลนิธิจึงได้ดำเนินการแทน ตำรวจรับแจ้งความในข้อหาลักทรัพย์และทารุณกรรมสัตว์ พร้อมลงพื้นที่เรียกตัวผู้กระทำผิดไปรับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีอาญาจนถึงที่สุด 

โดยเหตุการณ์เกิดจากลูกสาวยืนยันต้องการให้พ่อรับโทษในผลกรรมที่ทำไว้กับสัตว์ เหตุขโมยแมวสุดรักไปปล่อยทิ้ง พบอีกทีกลายเป็นศพเพราะถูกรถชนตายWDT รับแจ้งเรื่องร้องเรียน ขอให้ช่วยเหลือเรื่องดำเนินคดีกับพ่อของตนสาเหตุขโมยแมวชื่อ ฮาชิ อายุ เจ็ดเดือน ของลูกสาวไปปล่อยทิ้ง ลูกตามหาจนพบเป็นศพถูกรถชนตายสุดโศกเศร้า ตัดพ้อ คนทำไม่รู้สึกอะไรเลย จึงต้องการให้พ่อได้รับโทษไปแจ้งความด้วยตนเอง แล้วตำรวจจะให้ไกล่เกลี่ย ซึ่งตนยอมรับไม่ได้กับการกระทำนี้ 

 

ญาติโผล่แก้ข่าว เล่าปมพ่อเอา "ฮาชิ" ไปปล่อย ความจริงไม่ใช่แบบที่ลูกแฉ

 

ลูกสาวยืนยัน อยากให้เป็นบทเรียนของพ่อว่าอย่าทำแบบนี้กับใครอีก  ทุกวันนี้ยังคงร้องไห้ไม่หยุดด้วยความรักและสงสารฮาชิ แมวน้อยผู้อาภัพ

WDT ประสาน พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง และ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ มั่นศรี รองผกก.(สอบสวน) ช่วยกำชับสั่งการร้อยเวรให้รับคดีแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษข้อหาลักทรัพย์และทารุณกรรมสัตว์ พร้อมลงพื้นที่เรียกตัวผู้กระทำผิดไปรับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีอาญาจนถึงที่สุด 

 

ญาติโผล่แก้ข่าว เล่าปมพ่อเอา "ฮาชิ" ไปปล่อย ความจริงไม่ใช่แบบที่ลูกแฉ

 

ล่าสุดมีผู้อ้างตัวเป็นญาติโผล่แก้ข่าว เล่าปมพ่อเอา "ฮาชิ" ไปปล่อย ความจริงไม่ใช่แบบที่ลูกแฉ โดยผู้เป็นญาติเผยว่า แท้จริงผู้เป็นพ่อจะนำแมวไปปล่อยวัด แต่แมวกระโดดหนีไป พ่อก็รู้สึกตกใจ 

จากนั้นพอช่วยแมวมาได้ แต่แมวกลับตายขณะขับรถไปหาหมอ ซึ่งกลัวลูกกับเมียจะว่า จึงไม่กล้าพาแมวกลับบ้าน เลยเอาไปไว้ข้างทาง

 

ญาติโผล่แก้ข่าว เล่าปมพ่อเอา "ฮาชิ" ไปปล่อย ความจริงไม่ใช่แบบที่ลูกแฉ

ญาติที่ระบุตัวว่าเป็นหลานของชายที่เอาแมวไปปล่อยเล่าในเพจโหนกระแสว่า "ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจงในมุมของลุงแกบ้างค่ะ ลุงแกเล่าทั้งน้ำตา ว่า จริงๆลุงแกจะเอาแมวไปปล่อยวัด เพราะแมวที่ลูกสาวเอามาจากคอนโดแล้วฝากไว้ที่บ้านให้ลุงกับป้าดู แล้วน้องแมวก็มาขโมยของกิน ลุงแกใจหนึ่ง ก็โมโหลูกสาวว่าเอาแมวมาไว้ ทั้งๆพ่อกับแม่ก็ลำบาก

โดยที่ตัวลูกเองอยู่คอนโดหรูแล้วแมวยังมาขโมยของกินอีก แกจึงคิดนำแมวไปปล่อยที่วัด เอาแมวขึ้นรถพ่วงข้างไป พอไปถึงครึ่งทาง น้องแมวกระโดดลงจากรถ แล้วถูกรถชน ลุงแกก็ตกใจวนรถไปรับน้องแมวกลับมา แกว่าแกตกใจมากได้ยินคนพูดว่าให้พาแมวไปหาหมอ แกก็เอาขึ้นรถมา ขับรถไปก็คิดไปว่าจะต้องหาหมอที่ไหน ไปดูอีกทีน้องแมวไม่หายใจแล้ว

แกกลัวลูกแกจะด่า เพราะลูกสาวแกเคยด่าแกด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตัดพ่อตัดลูก แกเลยตัดสินใจทิ้งศพน้องแมวไว้ข้างทาง แล้วกลับบ้านไป ไม่กล้าบอกใคร จนกระทั่งมีคนโพสต์หาเจ้าของแมว สักพักลูกสาวแกก็มายืนด่าแกหน้าบ้าน แต่แกก็ไม่ได้ออกไปโต้เถียงกับลูก เพราะในใจแกเองก็ใจไม่ดีที่แมวลูกตาย

แกไม่ได้ทำร้ายน้องแมว หรือมีเจตนาที่จะให้แมวบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่แกแค่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการแบบนี้ขึ้น เราเป็นหลานของลุงเขา อยากให้ทุกคนได้ฟังในมุมลุงเขาพูดบ้าง ก่อนตัดสิน แต่เพราะแกเป็นคนแก่ ไม่รู้ไม่มีวิธีที่จะอธิบายให้ใครฟัง ทำให้ทุกคนได้รับข้อมูลด้านเดียว แกบอกว่ารู้แต่ว่ามีแต่คนด่าแกเยอะ โดยที่พวกเขายังไม่รู้เลยว่าความจริงเป็นอย่างไร แกเลยให้เราที่เป็นหลานช่วยใช้พื้นที่ตรงนี้ เล่าให้คนอื่นฟัง"

 

 

ขอบคุณ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT , โหนกระแส

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline