- 28 ก.ย. 2565
"ภิกษุณีสุทัสสนา"หรือ "ภิกษุณีปลาย" แถลงแจงปมขายสบู่น้ำมนต์ เปิดใจ เผยความลำบากในการบวชที่ "ศรีลังกา"เหตุผลที่ต้องหารายได้ พร้อมขอโทษที่ทำให้เสื่อมเสีย
28ก.ย.65 ภิกษุณีปลาย หรือ หมอปลายพรายกระซิบ ได้ทำการแถลงชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องการขายสบู่น้ำมนต์ หลังจากที่ทาง นายศรีสุวรรณ จรรยา หอบหลักฐานคำร้องส่งสำนักพุทธฯ-มหาเถรสมาคมฯ ขอให้ตรวจสอบและเอาผิด "ภิกษุณีสุทัสสนา" พบมีการขายสบู่น้ำมนต์ อวดอ้างสารพัดสรรพคุณ
โดย ภิกษุณีสุทัสสนา แถลงชี้แจงหลังเกิดกระแสดราม่ากรณี โพสต์ขายสบู่น้ำมนต์แก้ดวงตกชำระล้างอวิชชาต่างๆเพื่อเสริมโชคลาภจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม และนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ทำคำร้องส่งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและมหาเถรสมาคมฯขอให้ดำเนินการตรวจสอบการกระทำดังกล่าว
ภิกษุณีปลาย ยอมรับว่าได้ไลฟ์สดขายสบู่จริงแต่ทำอยู่ที่ประเทศศรีลังกาและไม่ได้ทำที่ประเทศไทยและได้ขออนุญาตพระอุปัชฌาย์แล้วว่าทำได้ ยอมรับรู้สึกผิดและคิดน้อยที่ไม่ได้ปรึกษาฝ่ายไทย เพราะคิดว่าทำอยู่ที่ศรีลังกาและเงินที่ได้ทั้งหมดก็ถวายวัดที่ศรีลังกาหมด แต่ทุกครั้งที่ไลฟ์สดก็จะบอกญาติโยมเสมอว่าไม่มีการบังคับให้ซื้ออยากช่วยก็ช่วยและอยากให้มีของแลกเปลี่ยนแต่หลายคนในไทยไม่เข้าใจและเพราะไม่ได้ดูไลฟ์สดทุกครั้ง
ส่วนเหตุผลที่ภิกษุณี ต้องหารายได้ เพราะชาวบ้านศรีลังกาไม่มีรายได้ ไม่มีการถวายสังฆทานหรือถวายปัจจัยแบบวัดไทยแต่จะถวายดอกไม้และส่วนตัวเองก็ไม่ใช่คนขี้ขอ แต่จะหาอะไรทำด้วยตนเองจึงได้ปรึกษา อุปัชฌาย์ที่วัดและอนุญาต
ส่วนราคาสบู่น้ำมนต์ขายก้อนละ 129 บาท เท่านั้น ไม่ใช่ 199 บาท ส่วนสรรพคุณของสบู่ที่บอกช่วยล้างสิ่งอัปมงคลและสิ่งสกปรก เพราะแต่ก่อนคนจะมาวัดมากและปกติต้องอาบน้ำมนต์ 7 วัด แต่ไม่สะดวกเลยจึงต้องหานวัตกรรมใหม่มาช่วย ยอมรับว่าคิดสั้น ลืมว่ามันเป็นเรื่องของความเหมาะสม ส่วนเงินที่ได้จากการขายสบู่และถวายวัดที่ศรีลังกาจนถึงตอนนี้เกือบ 1 ล้านบาทแล้ว ครั้งล่าสุดถวาย 3.5 แสนบาท
ภิกษุณีปลาย ยอมรับว่าจะบวชให้ครบ1ปี ถึงแม้ว่าตอนที่บวชเป็นภิกษุณีจะลำบากและไม่ค่อยมีรายได้ เหมือนตอนเป็นหมอดูก็ตามและหลังจากที่เกิดกระแสดราม่าตนเองก็จะไลฟ์สดและพูดขายสบู่ให้น้อยลง แต่ใครที่เคยร่วมบุญและใช้สบู่ก็รบกวนรีวิวให้ด้วยจะได้เอาปัจจัยตรงนี้ไปช่วยต่อ
พร้อมกันนี้ภิกษุณีปลาย ฝากถึง ศรีสุวรรณ จรรยา ว่า ก่อนที่จะฟ้องใครควรจะคุยกันส่วนตัวก่อน ไม่ใช่อยู่ดีๆไปทำให้เป็นเรื่องซึ่งถือว่าไม่แฟร์มองว่าส่วนหนึ่งเพราะอาจจะหิวแสงก็คงต้องปล่อยเขาไป ส่วนกรณีที่พระพยอมออกมาให้สัมภาษณ์ว่าทำให้ภิกษุณีเสื่อมเสียนั้นส่วนตัวยอมรับและขอโทษที่คิดน้อยไปจริงๆ ทั้งนี้ ภิกษุณีสุทัสสนา เดินทางกลับมาที่ประเทศไทยเพื่อเยี่ยมบ้านเท่านั้น และจะเดินทางกลับไปที่ศรีลังกาในวันพรุ่งนนี้