จับโป๊ะออมสินยึดบ้านผิดหลัง ป้าบ้านตรงข้ามพาไปดูชัดๆ บ้านที่ต้องถูกยึด

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ จับโป๊ะออมสิน ยึดบ้านผิดหลัง เหตุเพราะบ้านทั้ง2หลังมีสภาพเหมือนกัน เเละไม่มีบ้านเลขที่

   จากกรณีที่ปรากฎเป็นข่าวว่าธนาคารออมสินยึดทรัพย์และรื้อถอนบ้านผิดหลังในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งธนาคารออมสิน ได้ออกหนังสือขอโทษพร้อมคำชี้แจง โดยเจ้าของบ้านได้เรียกค่าเสียหาย 2.2ล้านบาท เเละทางธนาคารได้มีการนัดหมายเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวมาเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อพิจารณาข้อเรียกร้องและประเมินค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ล่าสุด "ทนายรณณรงค์"จับโป๊ะออมสินยึดบ้านผิดหลัง

  จับโป๊ะออมสินยึดบ้านผิดหลัง ป้าบ้านตรงข้ามพาไปดูชัดๆ บ้านที่ต้องถูกยึด

   ซึ่งทางทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้เปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับบ้านหลังดังกล่าว  จับโป๊ะออมสินยึดบ้านผิดหลัง สำนักงานใหญ่ของออมสินออกแถลงการณ์ไม่ดูสี่ดูแปดอะไรเลย ที่บอกว่าบ้านทั้งสองหลังที่ยึดผิด เพราะบ้านทั้งสองหลังมีสภาพเหมือนกันและไม่มีบ้านเลขที่ เมื่อวานป้าบ้านตรงข้ามพานักข่าวไปดูว่าบ้านหลังที่ต้องถูกยึดก็มีบ้านเลขที่ติดอยู่ชัดเจน(หลังที่ต้องถูกยึดคือ 99/44 แต่ไปยึดผิดไปยึด99/38 ซึ่งไม่มีธุรกรรมใดๆกับออมสินเลย) 

จับโป๊ะออมสินยึดบ้านผิดหลัง ป้าบ้านตรงข้ามพาไปดูชัดๆ บ้านที่ต้องถูกยึด

จับโป๊ะออมสินยึดบ้านผิดหลัง ป้าบ้านตรงข้ามพาไปดูชัดๆ บ้านที่ต้องถูกยึด

 

  โดยความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ต.ค.65 ทาง ธนาคารออมสินได้ออกหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้ ธนาคารฯ ได้เข้าซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด อันได้แก่ บ้านเลขที่ 99/44 หมู่บ้านวนาสิริพาร์ควิลล์ ต.ลาดหลุมแก้ว อ.เมือง จ.ปทุมธานี 12140 ในราคา 1.6 ล้านบาท

จับโป๊ะออมสินยึดบ้านผิดหลัง ป้าบ้านตรงข้ามพาไปดูชัดๆ บ้านที่ต้องถูกยึด
   อนึ่ง ก่อนการเข้าปรับปรุงสภาพบ้านเพื่อรอการขาย ผู้รับเหมาภายนอกได้เคลื่อนย้ายสิ่งของ ภายในบ้านหลายรายการและธนาคารนำไปเก็บรักษาไว้ ซึ่งหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ และพบว่า เป็นการปรับปรุงบ้านผิดหลัง ธนาคารได้ติดต่อเจ้าของบ้านอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการหารือร่วมกัน เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565

จับโป๊ะออมสินยึดบ้านผิดหลัง ป้าบ้านตรงข้ามพาไปดูชัดๆ บ้านที่ต้องถูกยึด

   โดยธนาคารออมสินได้แจ้งขออภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และแจ้งขอส่งมอบ ของที่เก็บรักษาไว้ จำนวน 20 รายการ อาทิ เครื่องเล่นซีดี โต๊ะทำงานไม้ หนังสือ และพระบูชา คืนแก่ เจ้าของบ้าน ทั้งนี้ ปัจจุบันเจ้าของบ้านยังขอไม่รับของดังกล่าวคืน และเรียกค่าเสียหาย สำหรับสิ่งของข้างต้น รวมถึงสิ่งของอื่นๆ เรียกค่าเสียหายจำนวน 2.2 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารได้นัดหารือกันอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม 2565 เพื่อพิจารณาข้อเรียกร้อง และประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ธนาคารออมสินยืนยันที่จะรับผิดชอบค่าเสียหายอย่างเต็มที่ตามที่เกิดขึ้นจริง และขออภัยในความผิดพลาดครั้งนี้ 

cr.รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่  THAINEWS