- 18 ต.ค. 2565
รู้จัก นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ ชายปริศนา ชกหน้า ศรีสุวรรณ แท้จริงมีอาชีพไม่ธรรมดา เป็นถึงดีไซเนอร์...
จากกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนเอาผิด เดี่ยว 13 "โน้ส อุดม-แต้พานิช" หนุนม็อบหรือไม่ ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำหลักฐานมาเข้าพบพนักงานสอบ บก.ปอท. เพื่อขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามครรลองของกฎหมาย กรณีมีบุคคลทอล็คโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีการใช้ถ้อยคำ บางคำพูดอันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐและหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ พรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 หรือไม่ อย่างไร
โดยช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ปรากฎว่านายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล ในนามของกลุ่ม ศักดินาเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการ ซึ่งแฝงตัวมาเป็นนักข่าวทำท่าทีสอบถามประเด็นการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ ว่าหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินคดี 8 ปีนายกรัญมนตรี จะมีการแจ้งความคนเห็นต่างหรือไม่ แต่ยังไม่ทันจะถามจบนายวีรวิชญ์ได้เข้าไปทำร้ายชกต่อยนายศรีสุวรรณ ทันทีกลางวงสัมภาษณ์ ทำให้นักข่าวอึ้งกันทั้งวงสัมภาษณ์
หลังจากนั้น นายวีรวิชญ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนคาใจเพราะหลังจากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยปม 8 ปี นายกรัฐมนตรี นายศรีสุวรรณ ออกมาประกาศว่า ใครชุมนุมจะแจ้งความจะแจ้งจับหมด ซึ่งตนเป็นคนหนึ่งที่ชุมนุม วันนี้ตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอน ซึ่งมีตำรวจที่รู้จักฝากมาตบด้วย กราบขอโทษกองปราบที่มาทำแบบนี้ เพราะไม่มีโอกาสเลย ตนเฝ้าและแอบดูว่านายศรีสุวรรณจะไปร้องอะไรบ้าง เมื่อเช้าตนยอมทิ้งงาน ตนอายุ 62 ปี จะเป็นอะไรไม่สนใจ อยากให้เห็นว่า คำว่าประชาธิปไตยทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง ประเทศนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ถ้าถูกดำเนินคดีพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และที่มาวันนี้ไม่ได้มีใครจ้างมาแต่ตั้งใจมาด้วยตัวเอง
สำหรับ นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล นั้นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ลุงศักดิ์ วัย 62 ปี ดีไซเนอร์และอดีตผู้ชุมนุมเสื้อแดง และผู้ชุมนุมคณะราษฎร โดยนายวีรวิชญ์ได้กล่าวหลังชกหน้านายศรีสุวรรณว่า หากจะดำเนินคดีกับตน ตนพร้อม เพราะมีหมายจับมาแล้วหลายหมาย และเคยตบนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสานมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หมายจับที่นายวีรวิชญ์โดนนั้น ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับการชุมนุม และคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สำหรับเหตุการณ์ที่ตบหัวแรมโบ้อีสานนั้น ต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 โดยนายวีรวิชญ์ได้ไปร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับกลุ่มแรงงานที่เดือนร้อนจากโรงงานผลิตชุดชั้นในปิดตัว โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้เชิญแกนนำมาร่วมพูดคุย ระหว่างนั้น นายวีรวิชญ์ที่รออยู่ที่ด้านล่างอาคาร และได้บอกกับผู้ชุมนุมว่า "รอดู ถ้าเจอแรมโบ้ จะตบให้ดู เพราะทำให้คนอีสานต้องเสื่อมเสีย จากพฤติกรรมเป็นคนเสื้อแดงกลับใจ"
เมื่อนายเสกสกลเดินลงมาพร้อมคณะ นายวีรวิชญ์เรียกนายเสกสกลมา แล้วตบหัวไป 4 ครั้ง ก่อนที่นายเสกสกลจะต่อยหน้าอกคืน 1 ครั้ง นายวีรวิชญ์ต่อยคืน 1 ครั้ง ก่อนที่นายเสกสกลจะเดินไปยังจุดปราศรัยพร้อมคณะ
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline