- 21 ต.ค. 2565
อาลัย หนุ่มนักวิ่ง โพสต์บทเรียนใช้ร่างกายเปลือง หมดสติระหว่างซ้อมวิ่งที่สวนลุม ผ่านไป 3 วัน วูบอีกครั้ง ก่อนเสียชีวิต
ในโลกออนไลน์ต่างแห่อาลัยต่อการจากไปของหนุ่มนักวิ่งรายหนึ่ง ที่ก่อนหน้าเจ้าตัวได้การโพสต์เล่าเหตุการณ์ที่เขาหมดสติระหว่างซ้อมวิ่งที่สวนลุม ผ่านไป 3 วัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ไม่เป็นอะไร จึงได้ออกมาโพสต์เตือนบทเรียนเพื่อนนักวิ่ง ก่อนที่ต่อมาเขาได้หมดสติอีกครั้งระหว่างซ้อมเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่คราวนี้เขาไม่ฟื้นขึ้นมา
โดย หนุ่มนักวิ่งผู้ล่วงลับ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนเพื่อนนักวิ่งด้วยกันเพื่อเป็นบทเรียนเมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่เขาหมดสติครั้งแรกระหว่างซ้อมวิ่งที่สวนลุม ซึ่งคาดว่ามาจากการพักผ่อนน้อยและความเครียด ร่างกายอ่อนล้า และที่ผ่านมาเป็นคนใช้ร่างกายเปลืองมาก มี 100 ใช้ 150 โดยเขาได้มีการระบุข้อความว่า
"หมดสติครั้งแรกในชีวิต ณ สวนลุม **ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหาแต่อย่างใด*** แบบย่อ ๆ ไปวิ่งสวนลุมตามปกติ มาถึงรอบสุดท้าย ด้วยที่โลสุดท้าย ด้วยก็เลยใส่สุดเท่าที่สามารถเร่งได้ พอวิ่งเสร็จจากนั้นก็ได้มานั่งริมฟุตบาท และทันใดนั้นก็เหมือนภาพตัดไปเลยย
รู้สึกตัวอีกที ก็คือนอนอยู่ที่พื้น และมีพี่ ๆ ประมาณ 4 คน ล้อมรอบช่วยปฐมพยาบาล ต้องขอบคุณพี่ ๆ ที่สวนลุมมากครับ คิดว่าจะมาจากช่วงนี้พักผ่อนน้อยและความเครียดจากสารพัดสิ่ง บวกกับ เสาร์-อาทิตย์ ไปใช้แรงงานขนของแบกหามเตรียมงานวิ่ง ร่างกายเลยอ่อนล้า
ก่อนมาวิ่งก็คือรู้ตัวนะว่าร่างกายมันเพลีย แต่ด้วยความคิดที่ว่า แต่ก่อนก็ทำแบบนี้ ไม่เห็นเป็นอะไร ก็เลยฝืนมา (ก่อนหน้านี้เป็นคนใช้ร่างกายเปลืองมาก มี 100 ใช้ 150 ประหนึ่งว่ามีชีวิตเป็นอมตะ)
ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนที่ดี อีก 1 บทเรียน และโชคดีที่มาเกิดในตอนที่ยังไม่เป็นอะไรมาก มีแค่แผลถลอกนิดหน่อย ตอนลงไปกองกับพื้น"
อย่างไรก็ตามต่อมาเพจเฟซบุ๊ก วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี ได้แจ้งข่าวร้ายโดยระบุว่า "ขอแสดงความเสียใจกับครอบครับน้องด้วย วันอาทิตย์ที่ผ่านมา หมดสติระหว่างซ้อมวิ่ง และวันพุธ (เมื่อวานนี้) หมดสติระหว่างซ้อมอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ฟื้นกลับมาแล้ว ฝากเป็นข้อคิดสำหรับทุกคนครับ พักผ่อนให้มาก อย่าหักโหมจนเกินไป ถ้าไม่ไหว ก็ไม่ต้องฝืน และหมั่นตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอครับ"
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงอาลัยความเสียใจต่อการจากไปของนักวิ่งหนุ่มรายนี้เป็นจำนวนมาก
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Thainewsonline