- 22 ต.ค. 2565
ล่าสุดสวนสัตว์พาต้า แถลงโต้ปมเจรจาซื้อขาย "บัวน้อย" กอริลลา ดาวเด่นของสวนสัตว์ในราคา 30 ล้านบาท ซัดประโยคสุดเจ็บ
จากกรณีเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 มีข่าวออกมาว่าทาง เลขานุการ รมว.ทส.เจรจาขอซื้อ "บัวน้อย" กอริลลาตัวสุดท้ายในไทยของสวนสัตว์พาต้าเพื่อส่งคืนบ้านเกิดประเทศเยอรมนี แต่เจ้าของเสนอขายบัวน้อย 30 ล้านบาท ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากนั้น
ล่าสุดในวันเดียวกัน สวนสัตว์พาต้า แถลงโต้ปมเจรจาซื้อขาย "บัวน้อย" 30 ล้าน ซัดประโยคสุดเจ็บ
โดยสวนสัตว์พาต้า ออกแถลงดังนี้ คำแถลงการณ์จากสวนสัตว์พาต้า
กรณีข่าวการขายบัวน้อยในราคา 30 ล้าน
จากกรณีที่มีข่าวจากหลายสำนัก ได้ให้ข้อมูลถึงการที่สวนสัตว์พาต้าตั้งราคาขายลิงกอริลลา ชื่อ บัวน้อย ดาวเด่นของสวนสัตว์ ใน ราคา 30 ล้านบาทนั้น บัดนี้ ทางผู้บริหารของห้างสรรพสินค้าพาต้า ปิ่นเกล้า รวมทั้งในส่วนของบริษัท สวนสัตว์พาต้า จำกัด ขอให้ข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์ ทางเพจของสวนสัตว์พาต้า เพียงช่องทางเดียวว่า
" ผู้บริหารของห้างฯ พาต้าในชุดปัจจุบัน ได้เข้ามาบริหารงานตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2563 ซึ่งจนถึงวันนี้ทางผู้บริหารผู้มีอำนาจตามกฎหมายของบริษัท ขอยืนยันว่า ไม่เคยเจรจาซื้อขายบัวน้อยกับผู้ใด และหน่วยงานใด ในทางกลับกัน ยังปฏิเสธการเคลื่อนย้ายบัวน้อย ตามที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เคยสอบถามและได้ตอบกลับไปอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ด้วยสาเหตุที่ไม่มั่นใจในการปรับตัวของบัวน้อย ลิงกอริลลาในวัยชราที่ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ด้วยความคุ้นเคยต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดเชื้อโรคใดๆ เป็นเวลากว่า 30 ปี "
ทั้งนี้ผู้บริหารชุดปัจจุบันขอย้ำอีกครั้งว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีผู้หนึ่งผู้ใด หรือหน่วยงานใดที่สนใจติดต่อเข้ามาเพื่อใช้เวลาศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลจากในสถานที่ และตัวตนที่แท้จริงของบัวน้อย โดยเฉพาะผู้ที่ให้สัมภาษณ์ หรือตลอดจนผู้ที่คิดจัดตั้งโครงการใดๆเกี่ยวกับบัวน้อยนั้น ก็ยังไม่เคยมีผู้หนึ่งผู้ใด เข้ามาศึกษาใช้เวลาในสถานที่แห่งนี้ ถึงความเป็นไปได้ในโครงการของตนเองก่อนการนำเสนอ ซึ่งถือเป็นความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมากสำหรับการเลี้ยงลิงกอริลลาให้อยู่รอดภายในสวนสัตว์ ซึ่งที่ผ่านมาในแง่นี้ถือเป็นความสำเร็จที่ประเทศไทยมีศักยภาพเป็นที่พิสูจน์ได้ จนวันนี้บัวน้อยอยู่ในวัยชรา บั้นปลายสุดท้ายของชีวิตตามอายุขัยของลิงกอริลลา ซึ่งทางสวนสัตว์พาต้าเองก็ได้มีการประชุมเรื่องการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ด้วยความตระหนักดีว่า
" ในอายุขัยเช่นนี้ บัวน้อย ลิงกอริลลาล้ำค่าตัวสุดท้ายของประเทศไทย สามารถตายจากเราไปได้ทุกเมื่อ "
และเป็นการยากถึงยากที่สุดที่นับต่อจากนี้อีกหลายปีหรือหลายสิบปี จะได้มีโอกาสได้เห็นลิงกอริลลาตัวต่อไปภายในประเทศไทยของเรา หากแต่มุมมองของความต้องการให้บัวน้อยกลับไปตายที่ประเทศต้นกำเนิดตามที่หลายฝ่ายต้องการนั้น อาจเป็นเรื่องที่สามารถแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปได้ แต่ผู้ที่มีอำนาจเกี่ยวข้องต่อกิจการสวนสัตว์ ไม่สมควรใช้คำว่า " ติดคุก " กับสัตว์ในสวนสัตว์
ทั้งนี้ ทางสวนสัตว์พาต้าจะไม่ขอกล่าวถึงสนธิสัญญาไซเตส (CITES) ที่ห้ามซื้อขายสัตว์ต้องห้ามบางจำพวก เช่น ลิงกอริลลา เพียงแต่ต้องการให้ข้อมูลความจริงว่า ที่ผ่านมา สวนสัตว์พาต้า ได้ให้ความรักและการดูแลเอาใจใส่กับบัวน้อยอย่างดีที่สุด
ถึงแม้ระยะหลังบริษัทจะต้องประสบกับภาวะขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารผู้มีอำนาจจะได้เจรจาหรือตั้งราคาบัวน้อยเพื่อให้ได้มาซึ่งการทดแทนด้วยผลกำไรจากสิ่งที่เรารัก และหวงแหนมากที่สุด
สุดท้าย ขอให้ข้อมูลนี้เป็นสิ่งที่นำพาไปสู่ความเข้าใจ จากผู้ที่มีความรัก ความผูกพันต่อสิ่งมีชีวิต เช่นบัวน้อยและทีมงานสวนสัตว์พาต้า …. จากใจ
บริษัท สวนสัตว์พาต้า จำกัด
ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2565
ด้านชาวเน็ตจำนวนมากได้ออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนทางสวนสัตว์และยืนยันว่าไม่ควรส่งตัวบัวน้อยกลับไปอยู่ป่า เนื่องจากบัวน้อยถูกเลี้ยงดูอย่างดีมากๆในสวนสัตว์มานานกว่า 30 ปี และหากนำไปปล่อยป่าคงไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง และหลายคนยังช่วยยืนยันว่าทางสวนสัตว์ดูแลบัวน้อยได้ดีมากๆจริงๆ
ขอบคุณ สวนสัตว์พาต้า
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline