- 02 พ.ย. 2565
หมอบี พูดแล้วปม มาวินตกเจ็ทสกี ชั่งใจก่อนถาม 'ผมพูดอะไรได้บ้าง' เอ่ยหนึ่งชื่อคีย์เวิร์ดสำคัญตามหาร่างหนุ่มวัย 18 ปี
เข้าสู่วันที่ 10 แล้วกับการตามหา น้องมาวินตกเจ็ทสกี หนุ่มวัย 18 ปีที่ไปเที่ยวกับเพื่อนที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี แล้วเกิดพลัดตกเจ็ตสกีจมน้ำหายไปตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อค้นหาตัว น้องมาวิน ทั้งการนำเรือลาดตระเวนไปบนผิวน้ำ และนำโดรนจำนวน 2 ตัว ลงไปค้นหาใต้น้ำ
ก่อนหน้านี้ นายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการค้นหาผู้สูญหายใต้น้ำมาอย่างยาวนาน ได้เปิดเผยภาพใต้น้ำ อีกทั้งยังระบุด้วยว่า ปกติแล้วคนจมน้ำจะลอยขึ้นมาไม่เกิน 6 วันตามวิทยาศาสตร์ ซึ่งความลึกและอุณหภูมิของน้ำก็มีส่วนที่จะทำให้ร่างยังไม่ลอยขึ้นมาก็เป็นได้ แต่ก็มีปัจจัยของสิ่งที่อยู่ใต้น้ำ ที่อาจจะเกี่ยวร่างน้องเอาไว้
หลังจากที่ตามหา น้องมาวิน มาหลายวัน ทำให้แม่น้องมาวินแทบจะหมดหนทาง จึงได้ฝากผู้ที่รู้จัก หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ให้ช่วยทำอะไรสักอย่างเพื่อจะให้ได้เจอร่างลูกชายของเธอที่จมหายใน เขื่อนศรีนครินทร์
(อ่านข่าว - เปิดภาพใต้น้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เหตุผลหา มาวินตกเจ็ทสกี ไม่พบ)
ล่าสุด "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" ได้พูดเกี่ยวกับ มาวินตกเจ็ทสกี ในไลฟ์ล่าสุดหมอบี กับ ทูตสื่อข่าว 1 พ.ย. 65 ทูตสื่อข่าว 1 พ.ย. 65 ซึ่งหมอบี ระบุว่า อันดับแรกคืออยากจะให้ช่วยเป็นกำลังใจให้กับพี่ๆ เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่กำลังช่วยเหลือหาร่างของน้องมาวิน เชื่อว่าเจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญอยู่แล้ว จึงต้องให้เกียรติเขามากๆ ในการค้นหา
พร้อมกันนี้ หมอบีพูดถึงมาวินตกเจ็ทสกี ยังชั่งใจคิด ก่อนจะบอกอีกว่า "ผมพูดอะไรได้บ้าง?" จากนั้นหมอบีก็ค่อยๆ เรียบเรียงคำพูดว่า "ส่วนอื่นๆ ผมเข้าใจนะ ในความเป็นมนุษย์อ่ะโดยเฉพาะคนเป็นแม่ มีวิธีไหนทำได้ทำหมด ซึ่งมันไม่แปลกทำไปเถอะ ถ้าทำเราคิดว่ามันรู้สึกสบายใจขึ้น หรืออยากจะพึ่งพาอะไรก็เพิ่งไปเถอะจะไปไหว้อะไรจะไปถามใครก็ทำไปเถอะ
แต่อย่าให้มันเดือดร้อนจนเกินไปแล้วกันและอย่าทำให้เป็นอุปสรรค ที่จะเป็นปัญหากับเจ้าหน้าที่ในการค้นหาเพราะเปรียบเทียบกับน้องชมพู่สุดท้ายแย้งกันไปแย้งกันมาอยากให้ให้เกียรติเจ้าหน้าที่ให้ได้มากที่สุด ผมพูดอะไรได้บ้างอ่ะ...จริงๆ ได้ส่งข้อความไปให้คนคนนึงด้วยความเป็นห่วง เพราะผมรู้ก็สงสารซึ่งผมพูดไปสั้นๆ แค่ 2 ประโยค
ประโยคแรกก็คือแค่บอกว่า เราอาจจะช่วยได้เป็นกำลังแค่ปลายนิ้วก้อย แต่ว่าผมช่วยอยู่แล้ว ผมก็ช่วยไปแล้ว เท่าที่ทำได้ผมบอกไปแค่นี้ซึ่งบอกแค่นี้แล้วกัน คือจริงๆ เรา แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลยก็อยากให้เจ้าหน้าที่เขาเต็มที่อย่างนั้นดีกว่า สิ่งที่มากไปกว่านั้นก็คือ....อื้ม.... พูดไรได้มั่งอ่ะ ขออนุญาตพูดตามตรง คุณแม่คนเดียวที่ทุกข์หรือเปล่า มันก็ไม่ใช่มันก็มีหลายคนที่ทุกข์
เราก็ต้องเข้าใจด้วยว่าแต่ละครอบครัวมันถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกันเวลามันมีปัญหาอะไรหรือยังไงแล้วมันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งหรือส่วนสำคัญในชีวิต คือมันเติบโตมายังไง เราก็ต้องเข้าใจว่าคนคนนึงเติบโตมามันไม่เหมือนกันบางคนเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นก็โชคดี บางคนเกิดมาในครอบครัวที่ไม่เข้าใจกัน
ส่วนคนที่เกิดมาแล้วรู้สึกว่าฉันยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ ฉันต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ฉันมีเพื่อนพร้อมฉันมีเพื่อนฝูงที่เข้าใจกันรักกันเปรียบดังครอบครัวมีเพื่อนมีพี่มีน้องที่เป็นส่วนสำคัญมากๆ เขาจะให้ความสำคัญตรงนั้นมาก เราก็ต้องให้เกียรติเขาในส่วนนั้นด้วย เหมือนเลยหลายคดีที่ผ่านมาที่แบบมีความเป็นพ่อเป็นแม่แล้วจะมีสิทธิ์ทุกอย่างอันนี้อาจจะต้องคิดนิดนึง
คืออย่ามาถามว่าเราขอขมาถูกหรือเปล่า ไหว้ถูกหรือเปล่าหรือทำอะไรถูกหรือเปล่า ทำไมถึงยังหาไม่เจอ ลองมองย้อนกลับไปว่าที่ผ่านมา เราได้ทำหน้าที่ของมนุษย์คนหนึ่งที่เป็นคุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง มันทำให้เขารู้สึกไว้วางใจรู้สึกรักและเป็นครอบครัวกันมากน้อยขนาดไหน ทำไม คนๆ นึงถึงมีพฤติกรรมซึ่งผมไม่ได้บอกว่ามันดีหรือไม่ดีนะไม่ได้เกี่ยวกันแต่พฤติกรรมที่มีการแสดงออกขับเคลื่อนด้วยพลังงานอย่างมหาศาลในการที่จะต่อสู้ดิ้นรนใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเองมีความภูมิใจในแบบของตัวเอง ว่าฉันซื้อของได้ด้วยตัวเองฉันทำทุกสิ่งอย่างได้ด้วยตัวเองหรือมีเพื่อนฝูงดีๆ อะไรก็ว่ากันไป
คืออันนี้ผมไม่รู้นะว่าอันนี้ดีไม่ดีไม่ได้เกี่ยวกันจริงๆ นะแต่ว่าพอเขาขับเคลื่อนด้วยแบบนั้นเปรียบเหมือนคนที่มีพลังงานเยอะ ดังนั้นคนที่มีพลังงานเยอะมากๆ เขาก็จะทำอะไรที่มันขับจากอารมณ์ จากที่ฉันเคยไม่ได้รับความรู้สึกดีๆ จากจุดนึงมายังอยู่อีกจุดนึงที่มีความรู้สึกแบบฉันได้แสดงออกอย่างเต็มที่มันก็เลยเต็มที่ จนบางทีมันเต็มเกิน
แล้วก็ลองถามน้องผู้หญิงคนนั้นแหละที่ถามดูว่า ที่ไปด้วยกันว่าอยู่ตรงไหนอะไรยังไง จุดตรงไหน เราก็หาเท่าที่หาได้ เข้าใจว่าน้องเขาคงจะร้อนใจไม่แพ้กันหรอก ซึ่งน้องผู้หญิงเขาน่าจะรู้ซึ่งน้องก็น่าจะคุยกับคุณแม่แล้วมั้ง น้องผู้หญิงที่ อักษรย่อ อ.อ่าง แหละ ลองไปถามดู
คืออยากให้คุยกันแล้วก็ไปหา แต่อยากให้เข้าใจในความเป็นจริงด้วยว่าหาไปแล้ว อย่างที่คุยว่าบางคน 6 ปี 20 ปียังไม่เจอด้วยความที่ ที่นี่มันไม่ใช่แม่น้ำเพราะมันคือเขื่อนที่แปลว่าทางข้างล่างคือเมือง 1 เมืองบางทีอาจจะลึกสัก 20 เมตร 50 เมตรหรือ 60 เมตรก็ได้ คือมันลึกมาก ลึกไม่ว่าแล้วข้างในมันไม่ได้โล่ง บางทีเป็นเมืองจะเป็นหลังคาหรือเป็นบ้านหลังนึงอีกมากมาย
โดยทางตามวิทยาศาสตร์ที่บอกว่าคนที่ตกลงไปแล้วจะขึ้นมาใน 3 วัน 4 วันแต่บางทีมันอาจจะไปติดอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งถึงทำให้บางคนหายไปเป็น 10 ปี 20 ปีจึงยังหาไม่พบซึ่งเราก็ต้องเข้าใจว่ามันหาได้แค่ระดับหนึ่ง
การพลัดพรากสูญเสียไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอก แต่ว่าเรามาเรียกร้องตอนสูญเสียแล้วอ่ะเหมือน... เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนเวลาเราไปงานศพเราไปขอลงบ่อให้มากินข้าวให้มาฟังพระแล้วไอ้ตอนที่มีชีวิตอยู่ทำยังไงอ่ะทำไมไม่ทำให้ต่อชีวิตอยู่ให้ดีให้พร้อมให้รู้สึกว่าจากไปแล้วไม่รู้สึกเสียดาย" หมอบี พูดหมดเท่าที่รู้และพูดได้เกี่ยวกับการตามหาของน้องมาวิน
อย่างไรก็ตาม หมอบี ยังบอกอีกว่า อยากให้ทุกคนช่วยกันให้กำลังใจกันเยอะๆ เพราะคุณแม่ก็น่าจะทุกข์ใจอย่างมาก แต่อย่าไปว่าคุณแม่ เพราะไม่ว่าเรื่องราวจะเกิดขึ้นด้วยอะไรยังไงก็ตาม ณ ตอนนี้ก็ช่วยกันหาให้ดูที่สุด ก็ฝากเป็นกำลังใจด้วย
หมอบีพูดประมาณตอนนาทีที่ 46.00 น.
ภาพจาก งมงาย สไตล์หมอบี
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline