ชูวิทย์ ซัดแหลก สันธนะ ย้อนเล่าสมัยเป็นตำรวจเด็กเมื่อวานซืน มาตีซี้

ชูวิทย์ ซัด สันธนะ เคยเป็นตำรวจเด็กเมื่อวานซืนมาตีซี้ เคยถูกยิงที่ จ.นครสวรรค์ แต่รอดมาได้ เสียผลประโยชน์เลยต้องออกมาตีโพยตีพาย


 8พ.ย.65  นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  เปิดแถลงกรณีกลุ่มธุรกิจสีเทาของชาวจีน ที่ โรงแรม Davis Hotel Corner Wing โดย นายชูวิทย์ เปิดด้วยเรื่องที่ว่า  วันนี้มีประเด็นที่ไร้สาระและมีสาระ โดยเริ่มจากเรื่องไร้สาระก่อน คือ กรณีที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล บอกว่ารู้จักกับ 5 เสือมาเฟียที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาดีนั้น นายสันธนะสูญเสียผลประโยชน์ทำให้ต้องออกมาตีโพยตีพายกล่าวหาว่าตนทำธุรกิจผิดกฎหมาย

  ชูวิทย์ ซัดแหลก สันธนะ ย้อนเล่าสมัยเป็นตำรวจเด็กเมื่อวานซืน มาตีซี้

 

   โดยอ้างจากคลิปวิดีโอของผู้มาใช้บริการในสถานบันเทิงที่โรงแรมตน แต่เมื่อตำรวจมาตรวจสอบก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย หากตนทำอะไรผิดจริง ก็จะมีเจ้าหน้าที่รัฐมาจัดการ ไม่ใช่นายสันธนะ ส่วนประวัติของนายสันธนะ ต้องโทรศัพท์ถามจากตำรวจด้วยกันเองก็จะรู้จักดี ซึ่งขณะตนเริ่มทำธุรกิจอาบอบนวดแรกๆ นายสันธนะยังเป็นตำรวจเด็กเมื่อวานซืน เข้ามาตีสนิท ก่อนจะไปถูกยิงที่ จ.นครสวรรค์ แต่รอดมาได้

ชูวิทย์ ซัดแหลก สันธนะ ย้อนเล่าสมัยเป็นตำรวจเด็กเมื่อวานซืน มาตีซี้

ชูวิทย์ ซัดแหลก สันธนะ ย้อนเล่าสมัยเป็นตำรวจเด็กเมื่อวานซืน มาตีซี้
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องมีสาระ คือประเด็นกลุ่มชาวจีนที่ทำธุรกิจสีเทา 5 กลุ่มซึ่งนายสันธนะอ้างว่ารู้จักนั้น กระจายการลงทุนอยู่ในหลายประเทศเช่น เวียดนาม กัมพูชา ลาวและไทย เพื่อฟอกเงิน เนื่องจากรัฐบาลจีน ปราบปรามการทุจริตอย่างหนัก โดยในเวียดนาม และกัมพูชา เช่น สีหนุวีล ต่างมีราคาที่ดินสูงขึ้นมหาศาล เฉพาะบ่อนพนันออนไลน์เดือนเดียวได้กำไร 2,000 ล้านบาท 

ชูวิทย์ ซัดแหลก สันธนะ ย้อนเล่าสมัยเป็นตำรวจเด็กเมื่อวานซืน มาตีซี้

อีกกลุ่มเป็นชาวจีนใส่สูทปล้น เป็นกลุ่มบริษัทและโรงงานจีนในไทย โดยตนเรียกว่ากลุ่มบริษัทศูนย์เหรียญ เหมือนทัวร์ศูนย์เหรียญและผับศูนย์เหรียญที่ตำรวจเพิ่งปราบไป กลุ่มนี้เป็นเหมือนเพลี้ยที่เข้าไปสูบทรัพยากรจนแห้ง เมื่อไร้ผลประโยชน์ก็บินไปที่อื่น ซึ่งบริษัทเหล่านี้ มี 2 กลุ่ม

คือบริษัทไทย กฎหมายกำหนดให้มีสัดส่วนคนไทยถือหุ้น 51% และบริษัทต่างชาติ ให้ถือหุ้นในสัดส่วน 49% ซึ่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง ประกอบกับ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ระบุว่า บริษัทต่างด้าวห้ามประกอบธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความสามารถพร้อมจะแข่งขัน เช่น การสีข้าว การทำประมง การผลิตปูนขาว สถาปัตยกรรม การทำกิจการทางวิศวกรรม เป็นต้น

 

ชูวิทย์ ซัดแหลก สันธนะ ย้อนเล่าสมัยเป็นตำรวจเด็กเมื่อวานซืน มาตีซี้

  แต่มีบริษัทอักษรย่อ H กรุ๊ป(ประเทศไทย) จดทะเบียนเมื่อปี 2543 ทุนเริ่มต้น 20 ล้านบาท และยังมีผู้ถือหุ้นชาวไทย แต่ปัจจุบันกลับเป็นชาวต่างชาติถือหุ้นร้อยเปอร์เซนต์ และทุนจดทะเบียนกว่า 80 ล้านบาท ซึ่งปีนี้บริษัทนี้ เพิ่งประมูลงานติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าของรัฐ ด้วยงบ 1,500 ล้านบาท และจะสั่งซื้อสินค้ามาจากจีนโดยตรง ซึ่งเรื่องนี้รัฐจะไม่รับรู้ไม่ได้ ตนคาดว่า ใน 2-3 สัปดาห์นี้อาจมีหมายจับรายใหญ่ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews