- 10 พ.ย. 2565
"หมอยง" ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ได้ออกมาโพสต์ข้อความในหัวข้อ โรคโควิด 19 ธรรมชาติคอยฉีดวัคซีนให้ จะฉีดวัคซีน หรือ ให้ธรรมชาติฉีดวัคซีนให้ การศึกษาวิจัยมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
"หมอยง" ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ระบุข้อความว่า
โรคโควิด 19 ธรรมชาติคอยฉีดวัคซีนให้ จะฉีดวัคซีน หรือ ให้ธรรมชาติฉีดวัคซีนให้ การศึกษาวิจัยมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
ยง ภู่วรวรรณ
ราชบัณฑิต
10 พฤศจิกายน 2565
ทุกวันนี้ธรรมชาติฉีดวัคซีนให้ อาจจะมากกว่าจำนวนวัคซีนที่ฉีดต่อวัน เราจะเห็นได้จากตัวเลขที่ฉีดวัคซีนขณะนี้จะอยู่ที่ ประมาณ 4-5 พันเข็ม ต่อวัน แต่ธรรมชาติ (การติดเชื้อ) ก็เปรียบเสมือนการฉีดวัคซีน กระตุ้นภูมิต้านทานให้สูงขึ้น
ใครไม่ฉีดวัคซีน ธรรมชาติก็จะช่วยฉีดให้ ให้พิจารณาเอาเอง ระหว่างอาการข้างเคียง ของวัคซีน กับให้วัคซีนโดยธรรมชาติ คือการติดเชื้อ ชนิดไหนจะมีอาการข้างเคียงมากกว่า
คนที่ไม่เคยฉีดวัคซีนเลย แล้วติดเชื้อ อาการจะรุนแรงกว่าคนที่เคยฉีดวัคซีน แล้วติดเชื้อ วัคซีนย่อมมีประโยชน์กว่าแน่นอน
การฉีดวัคซีน 2 เข็ม ถือว่ายังฉีดวัคซีนไม่ครบ จะต้องได้ 3 เข็ม ไม่ว่าเป็นวัคซีนชนิดใดก็ได้
คนที่ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม ถึงแม้ว่าจะมีการติดเชื้อ ก็ถือว่าธรรมชาติกระตุ้นให้ เป็นเข็มกระตุ้นเพิ่มเติม ฉีดวัคซีนร่วมกับการติดเชื้อ ภูมิต้านทานที่ได้จะเป็นภูมิต้านทานแบบลูกผสม ที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างดีมาก
ในอนาคตต่อไปนี้ จากการประเมินขณะนี้มีการติดเชื้อไปแล้วมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แน่นอน คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 70% ของประชากร ดังนั้นถ้ารวมจำนวนวัคซีนที่ฉีด กับ ธรรมชาติที่ช่วยฉีดวัคซีนให้ ประชากรไทยน่าจะได้วัคซีนไปแล้ว เป็นส่วนใหญ่ อาการของโรคโดยรวมจึงเห็นภาพว่ามีอาการน้อยลง
ภาพรวม โควิด 19 เข้าสู่โรคประจำฤดูกาล และจะมีการติดเชื้อตามฤดูกาลนับจากนี้เป็นต้นไป เพราะกิจกรรมต่างๆจะเข้าสู่ภาวะปกติเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะมีการฉีดวัคซีนโดยธรรมชาติ ไปเรื่อยๆ กลุ่มที่สำคัญที่สุดที่วัคซีนธรรมชาติหรือการติดเชื้อ จะมีอาการข้างเคียง หรือรุนแรงมากที่สุด คงเป็นกลุ่มเปราะบาง 608
วัคซีนในอนาคตหรือปีหน้า เราจำเป็นจะต้องมีการศึกษาวิจัย ว่าขณะนี้ประชากรไทยอยู่ในสถานะของภูมิต้านทานเป็นอย่างไรในภาพรวม เพื่อวางแผนการให้วัคซีนในปีหน้า ในการกระตุ้น อาจจะเป็นไปได้ที่จะมุ่งเน้นเฉพาะ 608 และในเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปีเหมือนอย่างไข้หวัดใหญ่
การศึกษาวิจัยในระบบภูมิต้านทานของประชากรไทย จึงมีความจำเป็นที่จะใช้เป็นข้อมูลวางแผนการกระตุ้น วัคซีนในปีหน้า ว่าเราจะลงทุนให้กับทุกคน ซึ่งใช้เงินจำนวนมากมาย หลายหมื่นล้านบาท หรือจะให้เฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เป็นจำนวนเงินหลักพันล้านบาท
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainewsonline