- 11 พ.ย. 2565
นพ. มานพ พิทักษ์ภากร" หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คาดสาเหตุหมอกฤตไท ป่วยมะเร็งปอดระยสุดท้าย ทั้งที่ดูแลสุขภาพอย่างดี มาจากสิ่งใกล้ตัวที่ทุกคนละเลย...
จากกรณี "หมอกฤตไท" วัย 28 ปี ออกมาเผยเรื่องราวที่ตนนั้นเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ทั้งที่เป็นคนชอบออกกำลังกาย ให้ความสำคัญกับอาหารและการนอนหลับมาโดยตลอด
ล่าสุด "นพ. มานพ พิทักษ์ภากร" หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ทวีตข้อความแสดงความคิดเห็นถึงประเด็น เป็นมะเร็งปอด ผ่านแอคเค้าท์ทวิตเตอร์ @manopsi บอกว่า
"อ่านเพจ #สู้ดิวะ แล้วมีแรงฮึดผลักดันโครงการมะเร็งปอดต่อครับ บอกก่อนว่างานช้างมาก แต่เราจะพยายามผลักดันให้การตรวจรักษามะเร็งปอดด้วย comprehensive genomic profile และให้ยาต้านมะเร็งแบบมุ่งเป้าตามผลตรวจ เกิดขึ้นในระบบสุขภาพเมืองไทย ขอเวลาอีกนิดในการหาทุนครับ"
"ทราบมาแต่เดิมว่าปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สุดของมะเร็งปอดคือ สูบบุหรี่ การติดตามข้อมูลมากขึ้นพบปัจจัยเสี่ยงอื่นอีก เช่น ก๊าซเรดอน, สารเคมีบางชนิด (แร่ใยหิน, โลหะหนัก ฯลฯ) และ PM2.5 เดิมเชื่อว่าบุหรี่ไม่สัมพันธ์กับ adenocarcinoma ข้อมูลปัจจุบันพบว่าบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดทุกชนิด"
"เมื่อแพทย์วินิจฉัยมะเร็งปอด ข้อมูลหลักที่สำคัญคือการดูว่าเป็นชนิด small cell หรือ NSCLC ถ้าเป็นอย่างหลังจะตามด้วยการตรวจหา EGFR mutation การตรวจพบจะสามารถให้ยาต้าน EGFR ได้ ปัจจุบันบัญชียาหลักมี Erlotinib ซึ่งผู้ป่วยไม่ว่าสิทธิใดก็เข้าถึงยานี้ได้ ส่วนยามุ่งเป้าอื่นยังไม่ครอบคลุม"
สำหรับบทบาทของ PM2.5 และมะเร็งปอดในคนไม่สูบบุหรี่ "ทำไมถึงต้องซีเรียสเรื่อง PM2.5? เพราะ PM2.5 เป็นเหตุสำคัญของมะเร็งปอดชนิดที่มีการกลายพันธุ์ของยีน EGFR ซึ่งพบกว่า 50% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดชาวไทยโดยเฉพาะคนที่ไม่สูบบุหรี่ พบว่าเซลล์ปอดที่มี EGFR กลายพันธุ์ยังไม่เปลี่ยนเป็นมะเร็งจนกระทั่งได้รับ PM2.5 "
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline