- 14 พ.ย. 2565
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร แฉเพิ่ม แก๊งเด็กช่างอุ้มคู่อริอมกล้วยมีเยาวชน2รายอยู่ในวงการบันเทิง ตำรวจจ่อออกหมายจับเพิ่มอีก ยกก๊วนรวม17ราย
กรณีนักเรียนช่างกล ย่านรามคำแหง ซึ่งเป็นเยาวชน 3 คน ที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นนักเรียนอาชีวะย่านมีนบุรีกว่า 10 คน อุ้มไปกักขังไว้ 3 วันในบ้านเรือนไทยหลังหนึ่ง ซอยรามคำแหง 63 และได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ได้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน. หัวหมาก โดย ทางผู้ปกครองได้นำเด็กนักเรียนทั้ง 3 คนที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นนักเรียนอาชีวะอุ้มไปทำร้ายร่างกาย เข้าพบ พ.ต.อ. เศรฐพันธ์ ศรีสาคร ผู้กำกับการ สน.หัวหมาก และพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม
โดย นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ประธานศูนย์ความปลอดภัย กลุ่มอาชีวะศึกษา กทม. เดินทางเข้าพบผู้กำกับการ สน.หัวหมาก พร้อมเปิดเผยว่าจากการได้พูดคุยกับผู้อำนวยการ 2 สถาบัน ทางย่านมีนบุรีและรามคำแหง พบว่ามีกลุ่มนักศึกษาที่ก่อเหตุเรียนอยู่ในพื้นที่มีนบุรี 3 คน และ กลุ่มผู้เสียหายเคยเรียนอยู่ที่ย่านรามคำแหง 1 คน สวนในวันเกิดเหตุถูกหลอกให้ไปหน้าปากซอยจุดเกิดเหตุ แล้วถูกมัดมือปิดตาอุ้มไปที่บ้านหลังเกิดเหตุและถูกทำร้าย โดยหลังจากนี้ก็จะมีการหาทางในการแก้ไขปัญหานี้ต่อไป
ขณะที่ พันตำรวจเอก เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า วันนี้ได้ให้ผู้เสียหายมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนที่ในวันที่15 พ.ย.65 จะประสานสหวิชาชีพเข้าสอบปากคำผู้เสียหายอีกเป็นทางการอีกครั้งเนื่องจากเป็นเยาวชน เพื่อจะนำไปประกอบกับพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุเพิ่มอีก 4 รายซึ่งเป็นผู้ใหญ่อายุมากกว่า 18 ปีเพิ่มอีกจำนวน 3 ราย
และ ออกหมายเรียกเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนอีก1 ราย หลังจากก่อนหน้านี้ออกหมายจับและหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่ไปแล้วทั้งหมด 11 ราย รวมผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมดมี 17 ราย สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่เป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว 3 ราย
ยืนยันว่าตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกคน เบื้องต้น 3 ข้อกล่าวหาคือ กักขังหนุ่มเหนียว ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนข้อหาอื่นๆ เช่นการเผยแพร่คลิปและอาวุธปืนต้องดูพฤติกรรมของแต่ละคนว่าใครทำหน้าที่ใดบ้าง และจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง
ส่วนอาวุธปืนคาดว่าจะถูกนำเคลื่อนย้ายหลังเกิดเหตุก่อนที่ตำรวจจะเข้าไปตรวจค้นแต่ก็จะสืบสวนและติดตามกลับมาให้ได้ พร้อมระบุว่าบ้านหลังเกิดเหตุไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลเพราะตำรวจได้มีการจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับก่อเหตุทะเลาะวิวาทและอาวุธปืนมาแล้วหลายครั้ง
ขณะที่ต่อมาเยาวชน 3 คน ผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นนักเรียนอาชีวทำร้ายร่างกายเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน. หัวหมาก เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยหนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ได้ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุล่อลวงให้ไปหาก่อนจะใช้อาวุธบังคับทำร้ายร่างกายภายในบ้านหลังรวมทั้งบริเวณริมรั้วกำแพงหลังอพาร์ทเมนท์ของบ้านที่เกิดเหตุ จนกระทั่งได้มีการเอาโทรศัพท์ของตนเองแล้วติดต่อไปยังเพื่อนอีกสองคนซึ่งเป็นผู้เสียหายให้มารับตนเอง แต่เมื่อมาถึงก็ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุล็อคตัวนำไปทำร้ายร่างกายตามปรากฏในคลิป
โดยตนเองเคยเรียนสถาบันเดียวกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ และคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่พอใจตนเองเข้าใจผิดว่าตนเองจะย้ายไปเรียนโรงเรียนช่างกลย่านรามคำแหง จึงทำให้ถูกทำร้ายดังกล่าว
ด้านแม่ของผู้เสียหายเปิดเผยว่า การกระทำของผู้ก่อเหตุเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ทำกัน เพราะเป็นสิ่งที่โหดร้ายและทารุณกับลูกของตนเอง ส่วนที่พ่อของผู้ก่อเหตุออกมาขอโทษและรู้สึกผิดตนเองไม่เชื่อคำพูด เพราะตอนเกิดเหตุพ่อผู้ก่อเหตุก็อยู่ด้วยทำไมถึงไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น รู้สึกว่าเป็นเพียงแค่คำกล่าวอ้างเท่านั้น
ด้าน ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร เดินทางมาที่ สน.หัวหมาก เพื่อนำหลักฐานเพิ่มเติมมามอบให้พนักงานสอบสวน โดยเปิดเผยว่า ตนต้องการให้ตำรวจเข้าไปตรวจค้นที่บ้านเรือนไทย เพราะเชื่อว่ายังมีอาวุธสงครามซ่อนอยู่อีกเยอะ และพรุ่งนี้จะนำเอกสารหลักฐานทั้งหมด ไปยื่นต่อพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เข้ามาช่วยเร่งรัดคลี่คลายคดีนี้ด้วย เพราะมีผู้กนะทำความผิดหลายคน และยังมีอาวุธปืนสงคราม
โดยตอนนี้ ตนตั้งข้อสงสัยว่า อาวุธต่างๆ ทำไมเยาวชนที่เป็นแค่นักเรียนถึงหาซื้อได้ง่าย ตำรวจควรต้องกวาดล้างเรื่องนี้ ตนรับไม่ได้ที่น้องถูกอุ้มไปซ้อมทรมานทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น แล้วยิ่งเป็นเยาวชนอยู่ด้วย อีกทั้งยังเห็นว่า ควรแก้กฎหมายเยาวชนใหม่หรือไม่ เพราะทำผิดแล้วไม่ได้รับโทษ พ่อแม่ก็ไม่เห็นมารับผิดชอบ
ส่วนกรณีที่มีเคลื่อนย้ายอาวุธปืนของกลาง อาจะเป็นเพราะว่า กว่าผู้เสียหายจะไปแจ้งความเรื่องก็ผ่านไปนานแล้ว เนื่องจากผู้เสียหาย ถูกข่มขู่ว่าหากไปแจ้งความจะมีการปล่อยคลิป ซึ่งระหว่างนั้นอาจจะมีสายที่รู้จักกับตำรวจ ที่ทำให้ผู้ก่อเหตุรู้ตัวก่อน และเคลื่อนย้ายของกลางไปที่อื่น แล้วพอผู้เสียหายแจ้งความ ก็มีการปล่อยคลิปดังกล่าวออกมาจริงๆ
อย่างไรก็ตาม การที่ก่อนหน้านี้ตำรวจได้เข้าตรวจค้นแล้ว 1 ครั้ง ตำรวจก็สามารถที่จะออกหมายค้นซ้ำได้อีก เพราะจำเป็นต้องหาวัตถุพยานเพิ่มเติม และตอนนี้ก็มีผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่เคยถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้กระทำเช่นเดียวกัน ติดต่อมาหาตนเพื่อจะเข้าแจ้งความเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่งด้วย
และล่าสุด ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้เคลื่อนไหวผ่านโลกออนไลน์ ด้วยการโพสต์แฉเบื้องลึกว่า เด็กช่างอุ้มคู่อริอมกล้วยมีเยาวชน2รายอยู่ในวงการบันเทิง
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ thainews