หนุ่มพาช่างไปซ่อมแซมบ้าน ก่อนผงะหนัก หลังเปิดประตูเข้าไป

เมื่อเวลา 16.00  น. วันที่ 20 พ.ย. พ.ต.ท.ปรีดา มะเดื่อ  สว.(สอบสวน) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายปี เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 5/115 หมู่บ้านกลางเมือง  ซอยศรีนครินทร์ 24  ถนนศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. รุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรนิติเวช รพ.จุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

 

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่เชิงบันไดชั้นสองพบศพนายเอกกมล สุกิจจวนิช อายุ 36 ปี สภาพศพแห้งเป็นโครงกระดูก เสียชีวิตมาแล้ว 4-5 ปี สวมเสื้อโปโลแขนสั้นสีขาว กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ นอนหงายทับผ้าห่ม กะโหลกศีรษะพาดบันไดขั้นสอง ที่ลำคอมีสายไฟรัดคอ ยาวประมาณ 1 เมตร ปลายสายไฟชาดจากสายไฟที่ผูกกับราวบันไดชั้นสาม นอกจากนี้ในห้องนอนของผู้ตายชั้น 2 พบจดหมายลาตาย มีข้อความเลือนลาง ยังระบุไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอะไร

 

 

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นน้องชายเจ้าของบ้าน ไม่มีงานทำ ช่วงหลังมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า พี่ชายคนตายมีฐานะดีอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง ให้น้องชายมาอยู่บ้านหลังเกิดเหตุคนเดียว ก่อนหน้านี้ 4-5 ปี บอกกับพี่เจ้าของบ้านและญาตพี่น้องว่าจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป ญาติพี่น้องแจ้งความคนหายไว้ที่ สน.คลองตัน เมื่อปี 61 ก่อนเกิดเหตุพี่คนตายเจ้าของบ้าน พร้อมช่างเดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุหลังจากปล่อยร้างไว้หลายปี เพื่อปรับปรุงซ่อมแซม เมื่อเปืดประตูเข้ามาภายในบ้าน ตกใจเมื่อพบศพเสียชีวิตมาเป็นเวลานานคาดเป็นน้องชายที่ขาดการติดต่อมาหลายปีและเข้าใจผิดว่าไปทำงานต่างประเทศ 

 

 

ทั้งนี้จากการสอบสวนเพื่อนบ้านต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ก่อนหน้านี้ 4-5 ปี ไม่ได้กลิ่นเหม็นของศพหรือสิ่งผิดสังเกตใดๆ และตอบอย่างหวาดผวาว่าไม่น่าเชื่อพวกตนนอนอยู่ใกล้ศพผูกคอตายมานานหลายปี

ด้าน พ.ต.ท.ปรีดากล่าวว่า บ้านที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการงัดแงะหรือรื้อค้น  ตรวจสอบทรัพย์สินไม่มีสูญหาย เบื้องต้นคาดว่า นายเอกกมลอาจเครียดปัญหาชีวิตหรือเครียดโรคประจำตัว ฆ่าตัวตาย ส่วนผ้าห่มศพนอนทับอยู่นั้นคาดตกหล่นอยู่ก่อนแล้ว เบื้องต้นญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะต้องส่งศพไปชั้นสูตรสาเหตุการตายที่แท้จริงรอผลการตรวจที่เกิดเหตุและตรวจดีเอ็นศพเพื่อยืนยันศพดังกล่าวคือนายเอกกมล  จากนั้นให้ญาติติดต่อรับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

 

 

 

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline