- 22 พ.ย. 2565
เตรียมรับมือ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ เตือนฝนหลงฤดูตกหนักทั่วทุกภาค กทม.-ปริมณฑล เสี่ยงสูงน้ำท่วมรอระบาย แนะวางแผนเดินทาง
จากกรณีที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 21-24 พ.ย. 2565
ล่าสุดทางด้าน ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยประชาชนเกี่ยวกับฝนตกหลงฤดู , น้ำท่วม และแนะรัฐถึงการบริหารจัดการน้ำ โดยมีการระบุว่า "ฝนตกหนักหลงฤดูระวังน้ำท่วมรอระบายในเมือง บริหารน้ำต้องรู้พื้นที่จริงศึกษาจริงปฏิบัติจริงเจ้าภาพชัดเจน
ตั้งแต่วันที่ 22-25 พฤศจิกายน ฝนตกหนักหลงฤดูทั่วทุกภาค (แต่ลมไม่แรงมาก อุณหภูมิสูงขึ้นมานิดหน่อย) จากหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ และทะเลอันดามัน เริ่มจากภาคอีสานล่าง (วันที่ 22 พ.ย.) ต่อเนื่องภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคอีสาน ภาคใต้ตอนบน (วันที่ 23-24-25 พ.ย.) และค่อยๆเบาลงทั่วทุกภาค (วันที่ 26 พ.ย.) เกษตรกรควรงดตากผลผลิตในช่วงวันดังกล่าว พื้นที่เปิดในต่างจังหวัด พื้นที่ที่มีความชื้นในดินต่ำ ประกอบกับระดับน้ำในแม่น้ำ ลำคลองลดต่ำลงกว่าตลิ่งจะมีความเสี่ยงน้ำท่วมต่ำ แต่พื้นที่ปิดในเมืองพื้นผิวแข็ง รวม กทม. และปริมณฑล จะมีความเสี่ยงสูงกว่าจากน้ำท่วมรอระบาย จึงควรวางแผนการเดินทางช่วงวันที่ 23-24-25 พฤศจิกายนนี้ด้วยน่ะครับ
ผม และคณะทำงานฯได้เดินทางไปสำรวจน้ำภาคอีสาน (ขอนแก่น ร้อยเอ็ด) วันที่ 17-18 พฤศจิกายน (หลังน้ำลด) พบว่ายังคงมีน้ำค้างทุ่งอยู่ปริมาณมาก และบางแห่งเริ่มเน่าเสีย โดยเฉพาะในลุ่มน้ำชี สำรวจผนังกั้นน้ำขาดหลายแห่ง สำรวจสภาพตลิ่งซึ่งปัจจุบันน้ำกำลังลดลง และปัญหาวิกฤติที่จะตามมาคือ ตลิ่งกำลังพังจาก Rapid drawdown (ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว) เนื่องจากเป็นตลิ่งแบบดินปนทราย จะต้องใช้งบประมาณมหาศาล จึงควรแก้ปัญหาให้ตรงจุด ร่วมกับท้องถิ่น ชาวบ้าน สถานศึกษา (นวัตกรรม Soil cement เป็นทางออกหนึ่งที่ประหยัด และรวดเร็วในการทำงาน)
พื้นที่ภาคอีสานกลับมาแล้งอีก หลังจากน้ำท่วมหนัก 2-3 เดือนที่ผ่านมา มันเกิดอะไรขึ้น เรื่องของการจัดการทั้งนั้นเลย ด้าน Supply มีอ่างเก็บน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำหลายแห่งไม่มีน้ำ ตื้นเขิน ทั้งๆที่เพิ่งท่วมไป ห้วยหนอง คลองบึง ฝนทุกเม็ด น้ำทุกหยด ต้องกัก เก็บ หน่วง และใช้เป็นน้ำต้นทุน ในขณะเดียวกันด้าน Demand ต้องถามตรงๆว่าเราใช้น้ำกันอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลหรือไม่ ทำไมผลผลิตข้าวต่อไร่เราต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก ทำไมชาวนายิ่งทำ ยิ่งจน ทำมาก ได้น้อย และทำไมปล่อยปะละเลยกันมาหลายสิบปี คิดกันเฉพาะโครงการใหม่ๆ ใหญ่ๆ งบประมาณมากๆ คันกั้นน้ำพังทุกปี ชาวบ้านรับเคราะห์ทุกปี ตั้งงบประมาณซ่อมแซมทุกปี
ผมรับประกันได้เลยว่าถ้าทำตามสิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมด ใช้คนรู้พื้นที่จริง ศึกษาจริง ทำจริง มีเจ้าภาพชัดเจน ภายใน 5 ปี ภาคอีสานจะไม่มีท่วม และไม่มีแล้ง และ จะกลับมาสมบูรณ์พูลสุขตลอดไป"
ขอบคุณ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline