- 23 พ.ย. 2565
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ในประเด็นเรื่อง วันที่ 25 ธ.ค. 65 เป็นต้นไป จะไม่มีไฟฟ้า น้ำ อาหาร สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ เพราะอาจเกิดพายุสุริยะ
จากกรณีการส่งต่อข้อมูลที่เกี่ยวกับวันที่ 25 ธ.ค. 65 เป็นต้นไป จะไม่มีไฟฟ้า น้ำ อาหาร สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ เพราะอาจเกิด "พายุสุริยะ" ทางสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า
ข้อความดังกล่าวในประเด็นของพายุสุริยะระดับรุนแรงในช่วงวันที่ 25 ธันวาคมนั้นอาจเป็นไปได้ว่ามีที่มาจากข่าว พายุสุริยะ ในช่วงคริสมาสต์ที่เผยแพร่เมื่อปี 2564 (คลิกเพื่ออ่านข่าว) พายุสุริยะนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ แต่มักจะเกิดขึ้นหลังจากได้รับรายงานการตรวจพบ “เปลวสุริยะ” ของดวงอาทิตย์ ซึ่งจากนั้นอีกระยะเวลาหนึ่งจึงจะเกิดพายุสุริยะตามมา ทั้งนี้ ไม่สามารถทำนายการเกิดล่วงหน้าได้เป็นเดือน ๆ ซึ่งล่าสุดพบว่ามีรายงานการตรวจพบเปลวสุริยะ จากองค์กรบรรยากาศและสมุทรศาสตร์แห่งสหรัฐฯ National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา (earthsky.org) และไม่ได้แจ้งเตือนว่าจะเกิดผลกระทบรุนแรงแต่อย่างใด
“เปลวสุริยะ” เกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่บนดวงอาทิตย์ มักสอดคล้องกับจุดดับและการปลดปล่อยมวลโคโรนา (Coronal Mass Ejection – CME) โดยอนุภาคมีประจุบนดวงอาทิตย์จะถูกปลดปล่อยออกมา และหากอนุภาคเหล่านี้ปะทะเข้ากับโลก จะส่งผลต่อการรบกวนสนามแม่เหล็กของโลก เกิดเป็นพายุสุริยะ (geomagnetic storm) ได้ กรณีพายุสุริยะรบกวนสนามแม่เหล็กของโลก อาจส่งผลต่อระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าบนโลก ซึ่งหากรุนแรงมากอาจทำให้เกิดไฟฟ้าดับ หรือเกิดความแปรปรวนในการจ่ายไฟฟ้าได้ แต่เนื่องจากการชนเข้ากับชั้นบรรยากาศนี้เกิดในระดับความสูงที่สูงจากพื้นโลกเป็นอย่างมาก จึงไม่มีผลต่อระบบสื่อสาร อิเล็กทรอนิกส์ และอินเตอร์เน็ต รวมถึงไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ที่อาศัยบนพื้นโลก แต่จะสามารถสังเกตเห็นได้เป็น “ปรากฏการณ์แสงเหนือ” หรือ “ออโรรา” นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ทั้งการรบกวนระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าและปรากฏการณ์แสงเหนือนั้น มักเกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่ประเทศในบริเวณละติจูดสูง ๆ เมื่อมีพายุสุริยะที่ระดับความรุนแรงมากขึ้น ก็อาจจะส่งผลถึงผู้สังเกตที่อยู่บริเวณละติจูดต่ำลงไปได้ ดังเช่นเหตุการณ์ Carrington Event ที่ถูกบันทึกเอาไว้ในปี ค.ศ. 1859 ผู้สังเกตอยู่บริเวณใกล้แถบศูนย์สูตรก็ยังสามารถสังเกตเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือได้
สำหรับผลกระทบอื่น ๆ เช่น ดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลก ปัจจุบันดาวเทียมมีการออกแบบบระบบสำรองไว้รองรับในกรณีดังกล่าว หากเกิดพายุสุริยะที่รุนแรงมาก ๆ ผู้บังคับดาวเทียมทั่วโลกอาจปิดระบบบางส่วนชั่วคราว จนกว่าพายุสุริยะจะผ่านพ้นไป แต่ไม่ยาวนานขนาด 15 วันตามที่เป็นข่าว และนอกจากนี้ ในปัจจุบันเรายังไม่ได้มีหลักฐานที่บ่งชี้ถึงพายุสุริยะระดับรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้แต่อย่างใด
ขอบคุณ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ https://www.thainewsonline.co/