- 01 ธ.ค. 2565
ชายปวดหัวเรื้อรัง คิดว่าเครียดสะสม กินยาพาราบรรเทากว่า 1 ปี แต่อาการไม่ดีขึ้น ตัดสินใจมาพบแพทย์ สุดท้ายต้องผ่าตัดด่วน
เชื่อว่าใครหลายคนอาจเคยพบปัญหาปวดหัวเรื้อรัง กินยาพาราแต่ก็ยังไม่หายปวดหัวสักที จนคิดว่าเกิดจากความเครียดสะสม ซึ่งถ้าใครมีอาการแบบนี้ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน เพื่อตรวจร่างกายหาสาเหตุ ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกันผู้ป่วยรายนี้ ที่มีอาการปวดหัวเรื้อรังมานับปี ก่อนจะพบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง จนต้องเข้ารักษาโดยการผ่าตัด
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2565 นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Arak Wongworachat เรื่องราวกรณีตัวอย่างของผู้ป่วยชายวัย 60 ปีคนหนึ่ง ที่มีอาการปวดหัวเรื้อรังมานับปี ก่อนจะพบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง โดยระบุว่า
"กรณีตัวอย่าง ปวดหัวเรื้อรังกว่า 1 ปี ตรวจพบเป็นเนื้องอกในสมอง ผู้ป่วยชายอายุ 60 ปี เศษ ให้ประวัติปวดศีรษะต่อเนื่องมากว่า 1 ปี ในระหว่างนั้นกินยาแก้ปวดพารา พอได้บรรเทา คิดว่าตนเองปวดหัวจากภาวะเครียด หรือการทำงานที่เหนื่อยล้า พอนานวันอาการปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องกินยาพาราบ่อยขึ้น ถี่ขึ้น ต่อมาเริ่มมีตาพร่ามัว และสังเกตตนเอง เวลาปวดหัวมักมีอาการหูอื้อตามมาด้วย ไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แนะนำให้ส่งพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูกที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
แพทย์ได้ตรวจอาการเบื้องต้น สงสัยอาจมีความผิดปกติทางสมอง จึงส่งตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง พบเป็นเนื้องอกในสมอง ขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร จึงส่งปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์ระบบประสาท ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
แพทย์สั่งให้รับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาลทันที วางแผนผ่าตัด การผ่าตัดเนื้องอกในสมอง ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ระดับสูงของแพทย์ รวมถึงทีมงาน ไม่เพียงแต่ทำให้อาการปวดหัว อาการผิดปกติอื่นๆทางสมองหายเป็นปกติ จะต้องไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆตามมา หากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ ยิ่งอาจมีผลกระทบต่อร่างกายมากเท่านั้น ใช้เวลาผ่าตัดกว่า 2 ชั่วโมง สำเร็จด้วยดี หลังผ่าตัดไม่มีแขนขาอ่อนแรง ไม่ปวดศีรษะ ตามองเห็นชัดดี อาการหูอื้อลดลง จนหายเกือบเป็นปกติ
ปวดหัวเรื้อรัง มีอาการตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน พูดลำบาก พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง อย่าละเลย รีบปรึกษาแพทย์ #ทีมโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์"
ขอบคุณ Arak Wongworachat
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline