- 02 ธ.ค. 2565
รวบ สาวสองแสบ ปลดทองนทท.หาดพัทยา คาดทำกันเป็นแก๊งหรือเครือข่าย เบื้องต้นผู้ต้องหา 2 รายนี้สารภาพแต่บอกว่าทำเป็นครั้งแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งสาวประเภทสองที่มักก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญ หลอกลวง ทำร้ายร่างกาย และลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ บริเวณชายหาดพัทยา ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. และ พล.ต.ต.ม.ล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.1
พ.ต อ.สมชาย ธีรภัทรไพศาล ผกก.2 บก.ทท.1 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พิชญะ เขียวเปลื้อง สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 และ พ.ต.ต.ปริญ ศรีภัทรกุลชัย สว.กก.2 บก.ทท.1 ระดมกวาดล้างกลุ่มแก๊งสาวประเภทสองที่มีพฤติกรรมก่อเหตุ โดยในห้วงที่ผ่านมาได้จัดกำลังสายตรวจตำรวจท่องเที่ยวออกตรวจอย่างเข้มงวด และจัดชุดสืบสวนฝังตัวเฝ้าสังเกตการณ์ดูพฤติกรรม จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวนมาก รวมทั้งจัดทำประวัติบุคคลเพื่อเป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่เมืองพัทยา
และเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.65 เวลาประมาณ 02.00 น.ได้ทำการจับกุม นายกิตติพันธ์ฯ และ นายอนิวัตรฯ สาวประเภทสองซึ่งก่อเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียพร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ บริเวณชายหาดพัทยาในความผิดฐาน "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน" นำส่ง พงส.สภ.พัทยา โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้อย่างทันท่วงที โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริงและก่อเหตุเป็นครั้งแรก แต่อย่างไรก็ตามทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อ และจะดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเป็นการกระทำในลักษณะเครือข่ายหรือไม่อย่างไร ต่อไป
พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. ได้เปิดเผยว่า พัทยาถือเป็นพื้นที่เป้าหมายหลักในการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ โดยกลุ่มแก๊งกระเทยเหล่านี้ได้ถือโอกาสที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวระยะหนึ่ง แล้วเดินทางกลับ ทำให้การติดตามตัวผู้เสียหายเป็นไปด้วยความยากลำบาก เป็นเหตุให้ไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของท่องเที่ยว ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(สส.) ได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เพิ่มมาตรการการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวในพื้นที่เสี่ยง ทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างทันท่วงที โดยหลังจากนี้ ตำรวจท่องเที่ยวจะดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก และขอให้นักท่องเที่ยวมั่นใจว่า ตำรวจท่องเที่ยวจะยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และทำให้การท่องเที่ยวในประเทศไทยจะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
และขอประชาสัมพันธ์ กรณีนักท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อตำรวจท่องเที่ยว ได้ทางสายด่วน 1155 ซึ่งมีล่ามแปล 5 ภาษาตลอด 24 ชม. และทางแอพพลิเคชั่น Tourist police i lert u
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline